ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ครม.ไฟเขียวรับต่างด้าวหนีภัยพม่าทำงานได้เป็นกรณีพิเศษ
27 ส.ค. 2568

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ เรื่อง มาตรการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาโดยสาระสำคัญของเรื่อง รง. เสนอว่ารัฐบาลได้มีนโยบายช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่คนต่างด้าวกลุ่มผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่รับผลกระทบจากการสู้รบระหว่างรัฐบาลเมียนมาและกองกำลังชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และได้ส่งผลให้เกิดการอพยพหลบหนีภัยจากการสู้รบเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527

โดยรัฐบาลไทยขณะนั้นได้ผ่อนปรนให้ผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดตามแนวชายแดนเป็นการชั่วคราวในระหว่างรอเดินทางไปตั้งถิ่นฐานยังประเทศที่สามหรือเดินทางกลับมาตุภูมิโดยสมัครใจ ปัจจุบันพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา มีจำนวนทั้งสิ้น 9 แห่ง อยู่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดราชบุรี และมีจำนวนผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาอาศัยในพื้นที่ดังกล่าว จำนวน 77,718 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2568)

ทั้งนี้การให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แก่กลุ่มคนต่างด้าวตามข้อ 1 อาทิ ด้านการแพทย์ ด้านอาหาร จะเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างประเทศไทย โดยกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย (มท.) กับองค์กรระหว่างประเทศและองค์การนอกภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในปัจจุบันองค์กรระหว่างประเทศและองค์การนอกภาครัฐได้มีการปรับลดงบประมาณการให้ความช่วยเหลือ ส่งผลทำให้ภาระในการดูแลคนต่างด้าวดังกล่าวตกแก่รัฐบาลไทยเพียงฝ่ายเดียว ดังนั้น เพื่อบรรเทาภาระของรัฐและเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ตลอดจนแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน จึงมีความจำเป็นต้องผ่อนผันให้กลุ่มคนต่างด้าวดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงานเพื่อให้สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวต่อไป ซึ่งกรมการปกครอง มท. ได้ตรวจสอบสถานะและจัดทำฐานข้อมูลทางทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ควบคู่ไปกับการสำรวจความต้องการประกอบอาชีพ ที่ รง. จะส่งเสริมให้สามารถทำงานได้ในเขตพื้นที่และเงื่อนไขที่กำหนด

โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ซึ่งพำนักอยู่ในเขตพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา ซึ่งกรมการปกครองได้จัดทำทะเบียนผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาเรียบร้อยแล้ว

โดยขั้นตอนการดำเนินการผ่อนผันให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงาน โดยดำเนินการภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

1. ให้คนต่างด้าวกลุ่มเป้าหมายยื่นขออนุญาตออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมคนต่างด้าวเพื่อทำงาน โดยผู้มีอำนาจพิจารณา คือ นายอำเภอหรือปลัดอำเภอที่ได้รับมอบหมาย2. ให้คนต่างด้าวไปดำเนินการตรวจสุขภาพกับสถานพยาบาลของรัฐและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน สำหรับคนต่างด้าวซึ่งทำงานในกิจการหรือเป็นลูกจ้าง ที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม จะต้องทำประกันสุขภาพตามประกาศ สธ. ว่าด้วยการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว (ไม่สามารถทำประกันสุขภาพกับบริษัทเอกชนได้) ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 (เรื่อง แนวทางการผ่อนผันให้แรงงานสัญชาติกัมพูชาเข้ามาทำงานบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา)

3. ยื่นคำขออนุญาตทำงานพร้อมเอกสารและหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในแบบคำขอด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ เอกสารจัดทำทะเบียนผู้หนีภัยจากการสู้รบฯ เอกสารที่ได้รับอนุญาตออกนอกเขตพื้นที่ควบคุม ใบรับรองแพทย์ หลักฐานประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมค่ายื่นคำขอฉบับละ 100 บาท ทั้งนี้ ให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานในครั้งแรกของการขออนุญาตทำงาน

4. ให้นายทะเบียนอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานได้ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งอนุญาตให้ทำงาน โดยมีสิทธิทำงานกับนายจ้างได้ทุกประเภทที่มิได้ประกาศห้ามคนต่างด้าวทำ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 สิงหาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
19 ส.ค. 2568
หากจะมองหานักวิชการด้านการศึกษา ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยหนุ่มแล้ว หนึ่งในนั้น คงจะต้องพูดถึง ผู้ช่วยศาสตราจย์ คร.คณกร สว่างเจริญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ เจ้าพระยาบ้านสมเด็จเจ้าพระยา (มบส.) หนึ่งใน สถาบันการศึกษาที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย...