นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเสนอร่างกฎหมายยกเลิกสข. ว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนพบว่า ชาวบ้านทั่วๆไปจำนวนไม่น้อยไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิก สข. จากการเลือกตั้งแล้วเปลี่ยนมาใช้วิธีการแต่งตั้งคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่าคณะกรรมการประชาคมเขตขึ้นมาทำหน้าที่แทน สข.
ชาวบ้านส่วนมากเห็นว่าควรจะมีการเลือกตั้ง สข. ให้ทำหน้าที่เป็นผู้แทนทำงานรับใช้ประชาชนในระดับท้องถิ่นที่เป็นหน่วยย่อยที่สุดของกรุงเทพมหานคร คือ เขตต่างๆทั้ง 50 เขตทั่วกรุงเทพมหานครต่อไป
เพราะตลอดระยะเวลาที่มีการเลือกตั้ง สข. มาหลายสมัย ชาวบ้านพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของ สข. ที่สามารถนำปัญหาความเดือดร้อนไปบอกกล่าวให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเก็บขนขยะตกค้าง ปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน การติดตั้งไฟฟ้าสาธารณะตามตรอกซอกซอยแคบๆ และ งานอื่นๆอีกมากมาย ถึงแม้ปัญหาที่เกิดขึ้นในระดับเขตจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่สำหรับชาวบ้านทั่วไปปัญหาเหล่านี้ คือ ปัญหาที่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติสุข การมี สข. ก็ช่วยลดช่องว่างการเข้าถึงบริการของภาครัฐได้ระดับหนึ่งสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนระดับรากหญ้าได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้น สข. ยังมีส่วนอย่างสำคัญในการให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ให้คำปรึกษาในการจัดทำแผนพัฒนาเขต การใช้งบประมาณเพื่อประโยชน์ของประชาชน และชุมชน เนื่องจาก สข. ได้รับเลือกตั้งจากชาวบ้าน และส่วนมากก็เป็นคนในพื้นที่ที่มีความรักความผูกพันในพื้นที่ ใช้ชีวิตอยู่กับพื้นที่ตลอด ชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย จึงมีความตั้งใจที่อยากเห็นเขตพื้นที่ที่ตน และครอบครัวอาศัยพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
ในขณะที่การเลือกตั้ง สข. ทุกๆ 4 ปี ทำให้ชาวบ้านมีโอกาสพิจารณาว่าจะให้ สข. แต่ละคนทำงานต่อไปหรือไม่ ถ้าเห็นว่าทำงานดีก็ให้ทำงานต่อไป ถ้าเห็นว่าทำงานไม่ดีก็สามารถเปลี่ยนได้ แต่ถ้าใช้วิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการประชาคมเขตก็เป็นเรื่องของผู้มีอำนาจจะตัดสินใจแต่งตั้งใครก็ได้ ชาวบ้านไม่มีอำนาจที่จะกำหนดผู้แทนในระดับท้องถิ่นของตนได้แต่อย่างใด
ชาวบ้านส่วนมากจึงไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิก สข. จากการเลือกตั้งแล้วเปลี่ยนไปใช้วิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการประชาคมเขตแทน
ขอฝากให้ผู้มีอำนาจและผู้เกี่ยวข้องเงี่ยหูฟังเสียงอันแท้จริงของประชาชนด้วย