เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม 3 ชนิด ได้แก่ วาฬหลังค่อม (Megaptera novaeangliae), วาฬเบลนวิลล์ (Mesoplodon densirostris) และโลมาริสโซ (Grampus griseus) เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ส่งผลให้สัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ ห้ามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้า-ส่งออก เว้นแต่เพื่อกิจการสวนสัตว์และต้องมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า สัตว์ทะเลทั้ง 3 ชนิดมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล แต่ประชากรกำลังเผชิญวิกฤติจากการติดเครื่องมือประมง การสัญจรทางทะเล รวมถึงการลักลอบล่าและค้าขาย การยกระดับสถานะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจึงเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยลดภัยคุกคามและสนับสนุนความร่วมมือระหว่างประเทศ ภายใต้อนุสัญญา CITES ที่ไทยเป็นภาคีอยู่แล้ว นอกจากนี้ กรมอุทยานฯ ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมประมง กำลังนำเทคโนโลยี เช่น ระบบเสียงตรวจจับ วัสดุศาสตร์ และการลาดตระเวนทางอากาศแบบอัตโนมัติ มาใช้เพื่อลดการสูญเสียจากอวนประมงและการคุกคามทางทะเล โดยทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์ กระทรวงการต่างประเทศยังแนะนำให้ไทยแจ้งประเทศสมาชิก CITES ทราบถึงการเพิ่มสถานะความคุ้มครอง เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือสากลในการป้องกันการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย มติ ครม. ครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่ยืนยันบทบาทของประเทศไทยในการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล และการอนุรักษ์สัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์ในเวทีโลก