สมาชิกสภาเมืองพัทยา ตั้งกระทู้ถามการใช้เงินสะสมสถานศึกษา ชี้เงื่อนไขหลายชั้นทำโรงเรียนติดขัด ด้านรองนายกฯ–สำนักการศึกษาแจงขั้นตอน พร้อมเผยแผนแม่บท
(9 ก.ย.68) ที่ห้องประชุมตากสิน ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายบรรลือ กุลละวณิชย์ ประธานสภาเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมสภาสมัยสามัญครั้งที่ 3 โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ และสมาชิกสภาเข้าร่วมครบถ้วน
นายบรรจง บัณฑูรย์ประยุกต์ สมาชิกสภาเมืองพัทยา ตั้งกระทู้ถามถึงการใช้เงินสะสมของสำนักการศึกษาในโรงเรียนสังกัดเมืองพัทยา ครอบคลุมขั้นตอนการอนุมัติ ขอบเขตการใช้ และแผนแม่บทการพัฒนาการศึกษา
นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา ชี้แจงว่า การขอใช้เงินสะสมต้องอยู่ในแผนพัฒนาการศึกษาเมืองพัทยา (พ.ศ.2566–2570) และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ก่อนเสนอต่อนายกเมืองพัทยา ซึ่งที่ผ่านมามีโรงเรียนเมืองพัทยา 8 ได้นำเสนอต่อนายกเมืองพัทยาในการที่จะใช้เงินสะสมของโรงเรียนในการซ่อมแซมห้องน้ำ ในตอนนี้ได้ดำเนินการตามระเบียบนำเรียนต่อนายกเมืองพัทยาแล้ว
ด้านขอบเขตการใช้เงินสะสม หมวด 3 ข้อ 13 ซึ่งข้อบัญญัติจะมีดังนี้ ในกรณีที่สถานศึกษารายได้ไม่เพียงพอ และมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงิน นายกเมืองพัทยาอาจอนุมัติให้ใช้จ่ายจากเงินรายได้สะสมได้ตามความจำเป็น โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
การใช้จ่ายจากเงินรายได้สะสมตามวรรคหนึ่งให้กระทำได้เฉพาะกิจการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของสถานศึกษา ซึ่งเกี่ยวกับด้านการบริการผู้เรียนหรือกิจการที่เพิ่มพูนรายได้ของสถานศึกษา หรือกิจการที่จัดทำเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้เรียน ต้องเกิดประโยชน์กับผู้เรียนโดยตรง และต้องเป็นไปตามแผนพัฒนาของสถานศึกษา ทั้งนี้การใช้จ่ายจากเงินรายได้สะสมของสถานศึกษา ให้จัดทำเป็นโครงการ หรือกิจกรรมบรรจุไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ
ในส่วนแผนแม่บท สำนักการศึกษามี 2 โครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาศูนย์เยาวชนเมืองพัทยา ครอบคลุมการออกแบบสนามกีฬา อาคารโรงยิม 1,500 ที่นั่ง อาคารจอดรถ 200 คัน และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ซึ่งได้รับงบประมาณปี 2569 แล้ว
นายบรรจง ตั้งข้อสังเกตว่า การใช้เงินสะสมยังติดเงื่อนไขหลายขั้นตอน อาจล่าช้าและไม่ทันความต้องการเร่งด่วนของโรงเรียน เช่น การซ่อมแซมห้องน้ำเล็กน้อย ขณะที่งบประมาณบางส่วน เช่น ค่าหนังสือเรียนและค่าใช้จ่ายรายหัว ยังไม่ได้รับการอนุมัติ
นายกฤษณะ ระบุว่า สำนักการศึกษาเปรียบเสมือนพี่เลี้ยง คอยแนะนำการใช้งบ โดยเตรียมหารือกับผู้อำนวยการโรงเรียนทั้ง 11 แห่ง ในวันที่ 15 กันยายนนี้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงบประมาณ
ส่วน นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ยืนยันว่า ได้แก้ไขปัญหาความล่าช้าแล้ว โดยเพิ่มอำนาจการอนุมัติให้โรงเรียนจาก 1 แสนบาทเป็น 5 แสนบาท หวังช่วยให้การดำเนินโครงการต่าง ๆ สะดวกรวดเร็วและตอบสนองความต้องการนักเรียนได้ดียิ่งขึ้น