ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
ฝากเตือนเพื่อความปลอดภัย! “ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับถังน้ำมันเก่าที่ “ว่างเปล่า”
10 ก.ย. 2568

กาญจนบุรี - ฝากเตือนเพื่อความปลอดภัย! สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ ม.มหิดล เผยแนวทางป้องกันกรณี “ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับถังน้ำมันเก่าที่ “ว่างเปล่า” แล้วปลอดภัย แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของอุบัติเหตุร้ายแรง 

วันที่ 10 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาจารย์ ดร.อาจารี แก้วเหล่ายูง อาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและการจัดการภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรีได้วิเคราะห์องค์ความรู้จากเหตุการณ์ระเบิดในถังน้ำมันเก่า เป็นกรณีศึกษาเพื่อความปลอดภัยในด้านอุตสาหกรรมจากเหตุการณ์ระเบิดจากถังบรรจุน้ำมันที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นตัวอย่างสำคัญของความเสี่ยงในงานซ่อมบำรุงและงานที่เกี่ยวข้องกับสารไวไฟ หลายครั้งเกิดจากความเข้าใจผิดว่าถังที่ “ว่างเปล่า” แล้วปลอดภัย ทั้งที่ในความจริงยังคงมีไอระเหยของน้ำมันตกค้าง ซึ่งมีคุณสมบัติไวไฟและสามารถก่อให้เกิดการระเบิดได้เมื่อรวมกับประกายไฟ ซึ่งเหตุการณ์การระเบิดของถังน้ำมันที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นกรณีศึกษาที่ตอกย้ำถึงความสำคัญของการจัดการความปลอดภัยในงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานซ่อมบำรุงที่เกี่ยวข้องกับถังเก็บสารไวไฟ แม้จะดูเหมือนว่าเป็นเพียงการทำงานเล็กน้อย แต่ความประมาทเพียงเล็กน้อยก็อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่รุนแรงเกินคาด สาเหตุของอุบัติเหตุในลักษณะนี้มักไม่ได้ซับซ้อน แต่เกิดจากความเข้าใจผิดที่พบได้บ่อย นั่นคือการคิดว่าถังที่ว่างเปล่าแล้วปลอดภัย ความจริงแล้วถังที่เคยบรรจุน้ำมัน แม้จะไม่มีของเหลวหลงเหลืออยู่ แต่ยังคงมีไอระเหยของน้ำมันอยู่ภายใน ไอระเหยเหล่านี้มีคุณสมบัติไวไฟ และเมื่อถูกรวมอยู่ในที่ปิดหรือที่อับอากาศ ความเข้มข้นของไอระเหยอาจสูงจนถึงระดับที่เรียกว่า Lower Explosive Limit (LEL) ซึ่งเป็นค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถทำให้เกิดการระเบิดเมื่อมีแหล่งจุดติดไฟ


การทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อม การเจียร หรือการตัดโลหะ ล้วนก่อให้เกิดประกายไฟ ซึ่งเพียงพอที่จะจุดติดไอระเหยที่สะสมอยู่ในถังได้ทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงไม่ใช่เพียงการลุกไหม้เล็กน้อย แต่สามารถนำไปสู่การระเบิดอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยถังที่เคยบรรจุน้ำมันไม่เคยปลอดภัยโดยอัตโนมัติ มาตรการป้องกันที่ถูกต้องต้องเริ่มจากการกำจัดไอระเหยภายในถังออกให้หมดก่อนเริ่มงาน ซึ่งอาจทำได้โดยการล้างทำความสะอาด เปิดฝาถังเพื่อระบายอากาศ และตรวจสอบค่าความเข้มข้นของก๊าซด้วยอุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่น Gas Detector เพื่อยืนยันว่าปลอดภัยจริง 

นอกจากนี้ การทำงานประเภทนี้ต้องปฏิบัติตามระบบอนุญาตงานร้อน (Hot Work Permit) อย่างเคร่งครัด โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ตรวจสอบก่อนอนุญาตให้ทำงานการป้องกันอุบัติเหตุไม่ได้ขึ้นอยู่เพียงแค่มาตรการทางเทคนิค แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงและการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร การอบรมให้พนักงานเข้าใจถึงอันตรายของไอระเหยไวไฟและการทำงานในที่อับอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสร้างความตระหนักว่าความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเคยชิน แต่ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างสม่ำเสมอ ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยจากการขาดการตรวจสอบหรือการละเลยขั้นตอนที่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง โดยอาจารย์ ดร.อาจารี แก้วเหล่ายูง ได้กล่าวในช่วงท้ายว่า “หากเราเข้าใจกลไกของอุบัติเหตุและยึดมั่นในหลักการป้องกันอย่างจริงจัง เหตุการณ์ในลักษณะนี้สามารถป้องกันได้อย่างแน่นอน” และสำหรับหน่วยงานที่ต้องการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จาก องค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กำหนดมาตรฐานด้านการป้องกันอัคคีภัยและความปลอดภัยที่เป็นสากลใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก เช่น https://www.osha.gov/laws-regs/regulations/standardnumber/1910/1910.146,

https://www.osha.gov/laws-regs/regulations/standardnumber/1910/1910.252

https://www.nfpa.org/codes-and-standards/all-codes-and-standards/list-of-codes-and-standards/detail?code=51B และ

https://www.nfpa.org/codes-and-standards/all-codes-and-standards/list-of-codes-and-standards/detail?code=326


       //////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา  ไหลวารินทร์

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 16 กันยายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
29 ส.ค. 2568
หากจะมองหาผู้หญิงแกร่งในวัยกลางคนที่มาก ไปด้วยความสามารถ จากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งใน ต่างจังหวัดที่ขยันขันแข็ง มุมานะทั้งใฝ่เรียน หาความรู้ และทักษะต่างๆ เพื่อทำงานเลี้ยงชีพด้วยตัวเอง และครอบครัวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และทุก ย่างก้าวของเธอมีความหมายอย่างยิ่ง จ...