กระทรวงเกษตรฯ ขับเคลื่อนสมุนไพรไทย ชูแผน “Herb of the Year” ปี 2568-2570 ผลักดันกระชายดำพัฒนาวัตถุดิบให้มีคุณภาพมาตรฐาน GAP
นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการวัตถุดิบสมุนไพร ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องประชุม 134 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านสมุนไพรไทยอย่างรอบด้าน ทั้งด้านการผลิต มาตรฐาน การวิจัย พัฒนา และการตลาด
โดยที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้
1. ผลการขับเคลื่อนงานสมุนไพร ปีงบประมาณ 2568 ตามเป้าหมาย 7 ตัวชี้วัดภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ 1 ของกระทรวงเกษตรฯ มีความก้าวหน้าที่สำคัญ อาทิ ส่งเสริมการปลูกสมุนไพรตามมาตรฐาน GAP/เกษตรอินทรีย์แล้วรวม58,609 ไร่ เกินเป้าหมายที่กำหนด มีห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรอง ISO/IEC 17025 แล้ว 18 แห่ง ช่วยยกระดับคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพร รวมทั้งสร้างระบบฐานข้อมูลสมุนไพรกลางของกระทรวง (bioherb.moac.go.th) เชื่อมโยงข้อมูลจาก 5 หน่วยงานหลัก เพื่อใช้กำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาสมุนไพรได้อย่างแม่นยำ ตลอดจนมีการส่งเสริมการผลิตของเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรให้สามารถเข้าสู่ระบบตลาดอนไลน์หรือตลาดวัตถุดิบสมุนไพรเพิ่มขึ้น
2. รายงานผลการขับเคลื่อนสมุนไพร Herb of the year ระยะ 1 ปี “ขมิ้นชันและไพล” โดยขมิ้นชันมีการจดทะเบียนพันธุ์ใหม่กับกรมวิชาการเกษตร แล้ว 2 พันธุ์ ได้แก่ ขมิ้นชันพันธุ์ตรัง ขมิ้นชันพันธุ์ตรัง 84-2 ส่งเสริมแปลงใหญ่ประมาณ 4,500 ไร่ อีกทั้ง กรมวิชาการเกษตรยังเดินหน้าโครงการผลิตพันธุ์ขมิ้นชันปลอดโรคด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อสร้างหัวพันธุ์สะอาดได้มาตรฐาน ขณะที่ไพล อยู่ระหว่างพัฒนาสายพันธุ์ปลอดโรคที่มีสารสำคัญสูง และขยายเครือข่ายการผลิตกว่า 51 กลุ่มใน 45 จังหวัด เพื่อ
3. รายงานความก้าวหน้าระบบฐานข้อมูลสมุนไพรของกระทรวงเกษตรฯ ที่พัฒนาแล้วเสร็จและเปิดใช้งานเต็มรูปแบบ โดยมี Dashboard วิเคราะห์สถานการณ์การผลิต แหล่งปลูก มาตรฐาน และการตลาดสมุนไพร สามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากกรมต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้าง “สมุนไพรฐานข้อมูลเดียว” เพื่อการวางแผนพัฒนาและส่งเสริมเชิงรุก
4. ผลการดำเนินงานคัดเลือกจุดเรียนรู้ต้นแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสมุนไพร จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ สตูล สุราษฎร์ธานี นครพนม อำนาจเจริญ สระบุรี ราชบุรี น่าน และแพร่ เพื่อเชิดชูเกษตรกรที่มีศักยภาพและสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ พร้อมจัดทำโล่ประกาศเกียรติคุณและสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนการขับเคลื่อนสมุนไพร Herb of the Year 2568–2570 “กระชายดำ” ในระยะ 1 ปี เนื่องจากมีศักยภาพสูงทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยมีแนวทางสำคัญ คือ ส่งเสริมเกษตรกรไทยปลูกกระชายดำ คุณภาพตรงตามหลัก GAP ส่งเสริมการปลูกกระชายดำในโรงเรือนระบบปิด หรือการปลูกแบบ Vertical Farming คัดเลือกสายพันธ์ุกระชายดำที่ให้ผลผลิตปริมาณมากและเติบโตเร็ว สร้างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตกระชายดำ พร้อมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนดำเนินการตามแผนต่อไป
อีกทั้งที่ประชุมยังหารือแนวทางการผลักดันสมุนไพรไทยเข้าสู่ตลาดโลก และการสร้างเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) โดยเน้นการบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อยกระดับสมุนไพรไทยให้เป็น “พืชเศรษฐกิจอนาคต” ที่สร้างรายได้มั่นคงและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ อีกด้วย