ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลกลงพื้นที่ร้านอาหารและได้สอบถามพูดคุยเรื่องโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล ซึ่งผู้ประกอบการร้านอาหารตอบรับโครงการนี้เป็นอย่างมาก และส่วนใหญ่ร้านค้าในจังหวัดพิษณุโลกยังรับสแกนให้ลูกค้าจ่ายเงินตามปกติเนื่องจากเป็นการบริการลูกค้าอย่างหนึ่ง
นายณรงค์ศักดิ์ ชูพงษ์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 109/20 ม. 7 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าของร้านขาหมูกาแล เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลที่จะนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้ เนื่องจากโครงการนี้เข้าถึงทุกช่วงวัย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็กจะได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ด้วย แต่ยังมีข้อเสนอแนะก่อนที่รัฐบาลจะอนุมัติโครงการคนละครึ่ง ขอให้มีการทำข้อตกลงกับกับสรรพากรในการจัดเก็บภาษีรายได้เนื่องจากคนละครึ่งครั้งที่แล้วเสียภาษีไปเป็นจำนวนมากจากที่จะได้กำไรกลับมาขาดทุนด้วยการเสียภาษี ส่วนในเรื่องการรับเงินลูกค้าผ่านการสแกน QR code ทางร้านยังรับสแกนตามปกติเนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า มั่นใจระบบของธนาคาร
นางหนูบาง น้อยวัน อายุ 54 ปี เจ้าของร้านครัวหน้าแฟลตข้าวราดแกงบุฟเฟ่ต์ (คนใจดี) เปิดเผยว่า ที่ร้านเป็นข้าวแกงบุฟเฟ่ต์อิ่มละ 40 บาท ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะสแกน QR code เพื่อจ่ายเงิน เป็นการสะดวกและรวดเร็วดีกว่าพกเงินสด และตนเองก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินเข้าวันละเท่าไหร่ ตรวจสอบได้ง่ายและรวดเร็ว และมั่นใจระบบของธนาคารและบัญชีของตนเองไม่เป็นบัญชีม้า
พิษณุโลก/ศริตวรรธน์ อัครชินพรรณ /0661326136