กลุ่มบางจากฯ ผนึกกำลัง กลุ่มน้ำตาลขอนแก่นจัดตั้ง บีบีจีไอ เพื่อเข้าลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพที่มีกำลังการผลิตไบโอฟิลครบวงจรรายแรกและมีกำลังผลิตสูงสุดในประเทศ เตรียมขยายกำลังผลิตเอทานอลสู่เป้าหมาย 1 ล้านลิตรต่อวันในอนาคต และไบโอดีเซล 1 ล้านลิตรต่อวันในปี 2562 เหตุนโยบายรัฐยังหนุนแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซลB20 พร้อมเตรียมก้าวสู่ธุรกิจใหม่ในผลิตภัณฑ์ไบโอเบส หรือ การนำเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั่งไบโอพลาสติก ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม รองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยี
นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด(มหาชน)หรือ BBGI เปิดเผยว่า BBGI ตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตเอทานอลให้ได้ 1 ล้านลิตรต่อวัน จากปัจจุบันมีกำลังผลิต อยู่ 5 แสนลิตรต่อวัน โดยระยะแรกจะขยับขึ้นไปเป็น 8 แสนลิตรต่อวัน ภายในสิ้นปี 2561 นี้ โดยใช้เงินลงทุน 1,500 ล้านบาท และในอนาคตจะขยายเพิ่มเป็น 1 ล้านลิตรต่อวัน แต่ยังต้องรอดูความต้องการใช้ในประเทศว่าจะสามารถเพิ่มจากปัจจุบันที่ 4.5 ล้านลิตรต่อวันแค่ไหน และถ้ารัฐอนุญาตให้นำน้ำอ้อยมาผลิตเอทานอลได้ บริษัทฯ มีความพร้อมจะขยายกำลังการผลิตเป็น 1 ล้านลิตรต่อวันได้ทันที
ส่วนไบโอดีเซลได้ตั้งเป้าหมายขยายกำลังการผลิตให้ได้ 1 ล้านลิตรต่อวันภายในปี 2562 โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท จากปัจจุบันมีกำลังผลิต 9 แสนลิตรต่อวัน
อย่างไรก็ตามหากนับรวมกำลังการผลิตทั้งไบโอดีเซลและเอทานอลในปัจจุบันได้ 1.4 ล้านลิตรต่อวัน นับเป็นกำลังการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ(ไบโอฟิล) ครบวงจรและปริมาณมากสุดในประเทศ โดยผลิตได้จากกากน้ำตาล มันสำปะหลัง และไบโอดีเซลจากปาล์ม
" สาเหตุที่บริษัทฯ ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากเห็นว่าภาครัฐยังมีนโยบายสนับสนุนการใช้เอทานอลผ่านการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ทั้งโซฮอล์E 20 และE 85 รวมถึงการใช้ไบโอดีเซลผ่านการจำหน่ายน้ำมันไบอดีเซล B7สำหรับรถทั่วไป และB20 สำหรับรถบรรทุก รถสาธารณะ เป็นต้น ซึ่งในอนาคตหากผลการทดสอบให้ใช้B10 สำหรับรถทั่วไปใช้ได้ จะทำให้ความต้องการใช้สูงขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ต้องเตรียมความพร้อมรองรับการใช้ที่มากขึ้นในอนาคต ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนในอนาคตได้"นายพงษ์ชัย กล่าว
สำหรับปัจจุบันมีความต้องการนำเอทานอลและไบโอดีเซลไปผสมในน้ำมันเฉลี่ย 15% ในทุกผลิตภัณฑ์ โดยแนวโน้มการใช้แก๊สโซฮอล์เติบโตปีละ 4-5% ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้เอทานอลเติบโตได้ปีละ 6-7% ต่อปี ส่วนภาพรวมคงามต้องการใช้เอทานอลประเทศอยู่ที่ 4.4 ล้านลิตรต่อวัน และไบโอดีเซลอยู่ที่ 4.5 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งจากนโยบายส่งเสริมการใช้ B20 คาดว่าจะทำให้ความต้องการใช้ไบโอดีเซลเติบโตเป็น 7 ล้านลิตรต่อวันในสิ้นปี 2561 นี้
นายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีบีจีไอ จำกัด(มหาชน)หรือ BBGI กล่าวว่า ในอนาคตเทคโลโลยีรถยนต์ไฟฟ้า(EV)จะเติบโตอย่างรวดเร็วในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการจำหน่ายน้ำมันและการใช้เอทานอลรวมถึงไบโอดีเซลได้ ดังนั้นในขณะนี้ บริษัทฯได้เตรียมรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยเตรียมต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ไปสู่ธุรกิจใหม่ คือ สินค้าไบโอเบส หรือการนำพืชผลทางการเกษตรมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติก ผลิตภัณฑ์ด้านอาหารและอาหารเสริม เป็นต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเทคโนโลยี ซึ่งต้องสามารถแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฟอสซิลเบสได้ และคุณภาพต้องไม่แตกต่างกัน โดยสิ้นปี 2561 จะสรุปความชัดเจนได้
อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทฯ ได้ยื่นยื่นขออนุมัติเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไปตั้งแต่เดือน เม.ย. 2561 ที่ผ่านมา และรอการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.)เข้าตลาดต่อไป