ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
34 องค์กรใหญ่ เดินหน้าพัฒนาคุ้งบางกะเจ้า 6 ด้าน5 ปี ยกระดับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม สนองแนวพระราชดำริ
24 ก.ค. 2561

34 องค์กรทั้งภาครัฐ-เอกชน ผนึกกำลัง 6 ชุมชนคุ้งบางกระเจ้า ประกาศความพร้อมจับมือเดินหน้าโครงการ OUR Khung Bang Kachao กำหนดเป้าหมายชัด ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชนและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นและเติบโตเพิ่มขึ้น 20% ใน 5 ปี เน้นความร่วมมือแบบสานพลังเพื่อสังคม มุ่งเน้นงานพัฒนา 6 ด้าน ทั้งพัฒนาพื้นที่สีเขียว, จัดการน้ำและการกัดเซาะริมตลิ่ง, จัดการขยะ, ส่งเสริมอาชีพ, ท่องเที่ยว และพัฒนาเยาวชนและการศึกษา

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับการดำเนินงานพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าสู่ความยั่งยืน กล่าวในงานเปิดตัวโครงการ OUR Khung Bang Kachao ว่า “คุ้งบางกะเจ้า” พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 12,000 ไร่ในอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ  ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีคุณประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมสำคัญของประเทศ ทั้งยังมีคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว สังคมและวัฒนธรรม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริให้สงวนพื้นที่แห่งนี้ไว้เป็นพื้นที่สีเขียว สร้างอากาศบริสุทธิ์และประโยชน์แก่ผู้คนมากมาย ด้วยเหตุนี้โครงการ OUR Khung Bang Kachao จึงเกิดขึ้น ด้วยความร่วมมือจาก 34 องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนชุมชน 6 ตำบลในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า ภายใต้การกำกับของมูลนิธิชัยพัฒนา ที่พร้อมจับมือเดินหน้าพัฒนาพื้นที่คุ้งบางกะเจ้าในทุกด้านร่วมกัน โดยน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” แห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาสืบสานขยายผลตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเป็นหลักทำงานสำคัญ 

โครงการ OUR Khung Bang Kachao เป็นความร่วมมือในรูปแบบการสานพลังร่วมเพื่อพัฒนาสังคม (Social Collaboration with Collective Impact) กำหนดเป้าหมายร่วมกันว่าจะขับเคลื่อนการพัฒนา “เศรษฐกิจสีเขียว” หรือ พื้นที่สีเขียวที่ก่อให้เกิดรายได้และยกระดับวิถีชุมชนให้ดีขึ้นให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 5 ปี

นอกจากจะหวังผลในเรื่องการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรมแล้ว ยังกำหนดเป้าหมายว่าผลของการดำเนินงาน จะต้องทำให้ชุมชนในพื้นที่เติบโต แข็งแรงอย่างยั่งยืนเพิ่มขึ้น 20% โดยขับเคลื่อนผ่านกระบวนการทำงานทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ 1. พัฒนาพื้นที่สีเขียว 2. จัดการน้ำและการกัดเซาะริมตลิ่ง 3. จัดการขยะ 4. ส่งเสริมอาชีพ 5. ท่องเที่ยว 6. พัฒนาเยาวชนและการศึกษา

“34 องค์กรและชุมชน 6 ตำบล ได้เชื่อมโยงกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ด้วยวิธีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพื่อหาความต้องการที่แท้จริง มาวางกรอบการทำงานและสร้างเป้าหมายร่วมกันของคณะทำงาน ซึ่งถือเป็นโมเดลการพัฒนาชุมชนรูปแบบใหม่ของประเทศไทย ที่สอดคล้องตามแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์พื้นที่บางกะเจ้าให้เป็นพื้นที่สีเขียว รวมทั้งพัฒนาและใช้ประโยชน์พื้นที่ในลักษณะเป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีการอนุรักษ์วิถีชีวิต และความเป็นอยู่เรียบง่ายอย่างในอดีต” ดร.สุเมธ กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับการพัฒนาทั้ง 6 ด้าน มีการกำหนดกรอบดำเนินงานและวางเป้าหมายการพัฒนาเพื่อให้ตรงตามความต้องการชุมชน ประกอบด้วย 1. ด้านการพัฒนาพื้นที่สีเขียว  นำโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) วางเป้าภายใน 5 ปี จะมุ่งฟื้นฟูและรักษาพื้นที่สีเขียวให้ได้ 6,000 ไร่  โดยในปี 2561 กำหนดเป้าหมายระยะเริ่มต้นไว้ที่ 400 ไร่ ซึ่งทำร่วมกับเครือข่ายอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวทั้ง 6 ตำบลของคุ้งบางกะเจ้า ในพื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกรมป่าไม้  ซึ่งนอกจากช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีแล้ว ยังเป็นการต่อยอดการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า  2.ด้านการจัดการน้ำและการกัดเซาะริมตลิ่ง นำโดย มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์  มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และพัฒนา เกิดความมั่นคงและยั่งยืนด้านทรัพยากรน้ำนำไปสู่ความมั่นคงของพื้นที่สีเขียวในคุ้งบางกะเจ้า ผ่านการสร้างแบบอย่างความสำเร็จ ที่พร้อมขยายผลให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ จากการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น พัฒนาเป็นระบบฐานข้อมูลอย่างละเอียด  ใช้บริหารงานพัฒนาพื้นที่และบริหารสถานการณ์วิกฤต รวมทั้งกำหนดเส้นทางน้ำ ฟื้นฟูคลองและแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน  
3. ด้านการจัดการขยะ นำโดย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) จะมุ่งลดปัญหาขยะตามแนวทาง Circular Economy หรือ เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน โดยการนำขยะรีไซเคิลมาแปรรูปเพิ่มที่มูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มพัฒนา วัดจากแดง พื้นที่นำร่องของโครงการให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการจัดการขยะของชุมชน 4. ด้านการส่งเสริมอาชีพ นำโดยบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด มุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาคุณภาพสินค้าพื้นถิ่นให้มีเอกลักษณ์ หรือ สร้างแบรนด์ของตนเองให้เป็นที่รู้จัก ผ่านการพัฒนาส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตรสู่มาตรฐาน GDP  สนับสนุนจัดตั้งตลาดกลางส่งเสริมอัตลักษณ์ภายในชุมชน เพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์  รวมถึงผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยววิถีเกษตรสวนผสมผสานเชิงออร์แกนิค
 5. ด้านการท่องเที่ยว นำโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  มุ่งเน้นการบริหารจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างมีส่วนร่วมและมีระบบ สู่เป้าหมายการพัฒนาท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  ผ่านกระบวนการทำงานร่วมกันในรูปแบบประชารัฐ เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความอยู่ดีมีสุข และสร้างความสุขให้แก่คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน และ 6. ด้านการพัฒนาเยาวชนและการศึกษา นำโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มุ่งเน้นการสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมแก่คนรุ่นใหม่อย่างเป็นระบบ ผ่านการสร้างแหล่งเรียนรู้ชุมชน ที่รวบรวมหลักฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ชุมชน ปลูกฝังแนวทางการพัฒนาโครงการ OUR Khung Bang Kachao ในทุกๆ ด้าน เพื่อสืบสาน และรักษาเอกลักษณ์วิถีชุมชนชาวคุ้งบางกระเจ้าให้ดำรงสืบต่อไปยังเยาวชนรุ่นใหม่ รวมไปถึงปลูกจิตสำนึกให้เกิดความรัก ภาคภูมิใจ และมีการสืบสาน ฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมให้คงอยู่และสืบต่อไป 

 ทั้งนี้ กรอบดำเนินงาน 6 ด้านข้างต้น คณะทำงานจะต้องนำไปบูรณาการเชื่อมโยงเพื่อให้เกิดการพัฒนาร่วมกันอย่างเป็นระบบ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...