ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
พิษณุโลกแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน ประจำปี 2568
20 ก.ย. 2568

เมื่อเวลา 09:30 น วันที่ 20 กันยายน 2568 ที่บริเวณลำน้ำน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร.จ.พิษณุโลก นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน ประจำปี 2568 โดยมี นายศิริชิน หาญพิทักษ์พงศ์ นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก พร้อมด้วยคณะกรรมการการจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน จังหวัดพิษณุโลกให้การต้อนรับ ด้วยจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับ เทศบาลนครพิษณุโลก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ชมรมเรือยาวจังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกันจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน ขึ้นระหว่างวันที่ 17-21 กันยายน 2568 บริเวณลำน้ำน่านหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารโดยการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานจังหวัดพิษณุโลก ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันตั้งแต่ปี 2521 เป็นต้นมา เป็นระยะเวลา 44 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูส่งเสริมสืบทอดและรักษาประเพณีการแข่งขันเรือยาวของจังหวัดพิษณุโลก และอนุรักษ์วัฒนธรรมจากการทอดผ้าป่าหัวเรือ การถวายผ้าห่มหลวงพ่อพุทธชินราช และพร้อมให้เยาวชนและประชาชน ให้มีความรักและเห็นความสำคัญของประเพณี ขนบธรรมเนียมของท้องถิ่น และควรดำรงรักษาไว้ให้เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพิษณุโลกต่อไป และเพื่อให้เยาวชน ประชาชนมีความรักความเห็นความสำคัญของประเพณี ขนบธรรมเนียมของท้องถิ่น และควรดำรงรักษาไว้เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดพิษณุโลกต่อไป และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในท้องถิ่นของจังหวัดพิษณุโลกและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ตลอดทั้งการสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่นของจังหวัดพิษณุโลกและการท่องเที่ยวภายในประเทศ รอดการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทาน ซึ่งมีเรือที่ส่งเข้าแข่งขัน 9 ประเภทประเภทเรือยาวใหญ่ (ฝีพายตั้งแต่ 40 คนไม่เกิน 55 คน) เรือยาวใหญ่พื้นบ้าน (ฝีพายตั้งแต่ 40 คน ไม่เกิน 55 คน) เรือยาวกลาง(ฝีพายตั้งแต่ 31 คนไม่เกิน 40 คน) เรือยาวเล็ก ประเภท ก (ฝีพายไม่เกิน 30 คน) เรือยาวเล็กภายในจังหวัดพิษณุโลก (ฝีพายไม่เกิน 30 คน) เรือจิ๋ว (12 ฝีพาย) เรือยาวเล็ก ประเภท ก 2 (สีพายไม่เกิน 30 คน) เรือท้องถิ่น (3 ฝีพาย ) เป็นต้น

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 กันยายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
19 ก.ย. 2568
จากดีกรี วิศวเครื่องกล พระจอมเกล้าธนบุรีสู่เจ้าของ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า “สัญชาติไทย” หากจะกล่าวถึงคำว่า "Made in Thailand" แล้ว ต้องถือว่าเป็นคำกล่าวที่จะไม่มีวันตกยุคตกสมัย เนื่องเพราะ เป็นได้ทั้งความภูมิใจของคนทั้งชาติ และตัวขับเคลื่อนเ...