กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการฮาลาล 5 จังหวัดใต้ลุยตลาดฮาลาลโลก เตรียมความพร้อมยกเครื่องดันสินค้าฮาลาลไทยผงาด ในเทศกาลการการแข่งขันฟุตบอลโลกในอีก4ปีข้างหน้าที่ประเทศกาตาร์
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างการพัฒนาผู้ประกอบการอาหารฮาลาลใน 5 จังหวัดภาคใต้ประกอบด้วยสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เพื่อเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีใน 5 จังหวัดภาคใต้ให้มีความสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกได้ โดยมีเป้าหมายที่จะให้ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าฮาลาลติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ภายในปี 2563 เนื่องจากตลาดอาหารฮาลาลเป็นตลาดที่ใหญ่มีผู้บริโภคชาวมุสลิมรวมกันเกือบ 2,000 ล้านคนทั่วโลก
“ที่ผ่านมาผู้ประกอบการและผู้ผลิตสินค้าอาหารฮาลที่มีศักยภาพในการส่งออกส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใหญ่ๆ แต่ผู้ประกอบการในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ยังขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง รวมถึงขาดทักษะด้านการพัฒนาต่อยอดสินค้าที่ผลิตให้สามารถส่งออกได้ ดังนั้นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้เข้าไปพัฒนาผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลให้มีความรู้ ความเข้าใจในด้านการส่งออก การตลาดต่างประเทศ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ มาตรฐานฮาลาล การบริหารจัดการองค์กรอย่างมืออาชีพ การร่วมแสดงสินค้า และเจรจาการค้า โดยสินค้าฮาลาลที่ผ่านการคัดเลือกจะถูกนำมาจัดแสดงในงานแฟร์ต่างๆของกรมฯ เช่น งาน THAIFEX – WORLD OF FOOD ASIA เป็นต้น” นางจันทิรา กล่าว
นางจันทิรา กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายตลาดสินค้าฮาลาลไปยังประเทศที่มีผู้บริโภคชาวมุสลิมจำนวนมาก รวมถึงประเทศต่างๆทั่วทุกมุมโลก เนื่องจากเป็นตลาดที่มีลักษณะพิเศษด้านมาตรฐานตามหลักศาสนา พร้อมทั้งมีศักยภาพ และกำลังซื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญหลายประเทศกำลังจะมีกิจกรรมระดับโลกและมีความต้องการอาหารฮาลาลจำนวนมาก โดยเฉพาะประเทศกาต้าร์ที่จะได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือปี ในปี 2022 ต่อจากประเทศรัสเซียที่เพิ่งแข่งขันจบไปแล้ว
“กาตาร์ถือเป็นประเทศมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลกที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีทีมฟุตบอลของตนเองเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกมาก่อน แต่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติประเทศแรกที่จะได้จัดฟุตบอลโลก และเป็นประเทศที่ 3 ของทวีปเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพต่อจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่เคยจัดร่วมกันในปี 2002”
นางจันทิรา กล่าวต่อว่า สำหรับจุดแข็งสินค้าไทยในตลาดตะวันออกกลางรวมทั้งกาตาร์ส่วนใหญ่มองว่าสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งชื่อเสียงของสินค้าไทยค่อนข้างดีในมุมมองของประเทศในแถบตะวันออกกลาง ดังนั้น โอกาสที่ไทยจะส่งสินค้าเข้าไปขยายตลาดจึงมีความเป็นไปได้สูง แม้ว่าการแข่งขันจะสูงก็ตาม เพราะกาตาร์เป็นประเทศที่มีการนำเข้าสินค้าต่าง ๆ จากทั่วโลกเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะ สินค้าฮาลาล สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป เครื่องประดับ อัญมณี และอื่นๆ เป็นต้น
“ทั้งนี้การส่งสินค้าอาหารฮาลาลไปยังกลุ่มประเทศมุสลิมรวมถึงกาต้าร์ในปี 2560 มูลค่ารวมสูงถึง5,630.27 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ11.73 หากนับเฉพาะการส่งออกสินค้าฮาลาลไทยไปยังประเทศกาตาร์ นั้นมีมูลค่ารวม 40.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ18.84 โดยกลุ่มสินค้าที่ส่งออกมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป สินค้าประมง ปลา ข้าว และผลไม้กระป๋องและแปรรูป” นางจันทิรา กล่าว
นอกจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะให้ความสำคัญในการพัฒนาเอสเอ็มอี 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ที่ผ่านมายังได้ดำเนินงานยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาศักยภาพการตลาดสินค้าฮาลาลสู่สากลอีกหลายกิจกรรม เช่น การทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันมาตรฐานฮาลาล และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
นางจันทิรา กล่าวต่อว่า “พร้อมกันนี้ยังได้นำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ทั่วโลก เช่น งาน Gulfood 2018ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารฮาลาลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา จัดขึ้นที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 4,238 ราย จาก 100 ประเทศทั่วโลก , งานแสดงสินค้า Malaysia International Halal Showcase (MIHAS 2018) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าฮาลาลที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จำนวนผู้เข้าร่วมงานรวมกว่า 778 บริษัท จาก 32 ประเทศทั่วโลก และร่วมงานแสดงสินค้า Beauty World Middle East 2018 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติประเภทเครื่องสําอางและผลิตภัณฑ์สุขภาพความงามที่ใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง เป็นต้น”
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมในการสร้างภาพลักษณ์สินค้าฮาลาลของไทย การสร้างการรับรู้ในสินค้าฮาลาลรวมถึงตรารับรองฮาลาลของไทย และบทบาทของการเป็นประเทศผู้นำในการส่งออกสินค้าฮาลาลมาตรฐานระดับโลกของไทยสู่ตลาดโลกผ่านกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169