หลังจาก มีชาวบ้านพบลูกช้างป่าแรกเกิด ถูกฝูงทิ้ง กลางป่า จ.กาญจนบุรีนั้น ต่อมามีการส่งต่อมาดูแล รักษา ฟื้นฟู ที่ศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก สุพรรณบุรี
ล่าสุด ทาง สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก , น.สพ. นภัส เสวกวรรณ นายสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า พร้อม ทีมสัตวแพทย์ ได้ติดตามรักษาอาการลูกช้างป่าพลัดหลง น้องข้าวต้ม โดยพบว่า น้องข้าวต้ม สามารถกินนมได้ กินน้ำได้ ขับถ่ายได้ อุจจาระมีลักษณะเนื้อครีมเหลวเล็กน้อย (สีเขียวขี้ม้าอ่อน) ปัสสาวะสีขาวขุ่นเล็กน้อย บริเวณสะดือยังพบหนอง ต้องทำแผลทุกวัน และในบางช่วงเวลาลูกช้างป่ามีกำลังในการถีบตัวเองเพื่อให้ตัวเองยืนขึ้น
โดยมีสัตวแพทย์และคณะเจ้าหน้าที่ช่วยพยุงตัว จับเท้ายืดเหยียด ขณะเดิน เพื่อการฝึกเดินให้น้องข้าวต้ม ส่วนผลตรวจค่าเลือดล่าสุด ยังพบว่ามีค่าตับสูง ค่าไตสูง และ ค่าการสลายกล้ามเนื้อสูง แต่โดยรวมดีขึ้นกว่าผลการตรวจเลือดรอบแรก สัตวแพทย์ยังคงต้องให้สารน้ำเข้าหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง
และตรวจพบช่วงเวลา 20.10 น. น้องข้าวต้ม มีอาการอ่อนเพลีย สัตวแพทย์ตรวจวัดค่าน้ำตาลในกระแสเลือด พบว่า ต่ำกว่าปกติ สัตวแพทย์จึงทำการรักษาตามอาการ ส่วนความผิดปกติของกลุ่มเส้นเอ็นที่ทำหน้าที่ในการงอข้อขาหน้าแต่กำเนิด สัตวแพทย์ยังคงใช้วิธีการรักษาด้วยการทำกายภาพบำบัดโดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ การทำหัตถการยืดเหยียดข้อต่อ และเครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ ขาหน้า เริ่มคลายตัวเล็กน้อย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำกายภาพบำบัดรักษา ซึ่งสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ยังคงต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด เพราะน้องข้าวต้ม ยังอยู่ในภาวะที่อ่อนแอสามารถมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆที่ส่งผลต่อสุขภาพได้ จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
สันติ ชเชิด สุพรรณบุรี รายงาน