นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกประธาน กกต. คนใหม่จาก กกต. ที่ผ่านการสรรหา และการเลือก กกต. จำนวน 5 คน ของ สนช. ว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ออกมาจาก สนช. ว่าจะเลื่อนการเลือกประธาน กกต. จากวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ออกไปเป็นวันอื่นแต่อย่างใดขณะเดียวกันทางเลขาธิการวุฒิสภาในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหา กกต. ก็ยืนยันว่า ได้เตรียมการตามขั้นตอนการเลือกประธาน กกต. ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ไว้เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ดีอยากให้คณะกรรมการสรรหา กกต. และผู้เกี่ยวข้องกับการเลือกประธาน กกต. คนใหม่พิจารณาเรื่องนี้ให้รอบคอบว่าควรเดินหน้าเลือกประธาน กกต. ไปเลยในวันพรุ่งนี้ หรือ ชะลอการเลือกประธาน กกต. ออกไปก่อน
ถึงแม้ สนช. จะยืนยันว่าทำได้แต่ก็มีมุมมองที่ต่างออกไปว่าการเลือกตั้งประธาน กกต. ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ อาจผิดมาตรา 12 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. เพราะยังเลือกไม่ครบ 7 คน เพื่อให้กระบวนการการสรรหา กกต. และ การเลือกประธาน กกต.เป็นไปด้วยความถูกต้อง สมบูรณ์ รอบคอบมากที่สุด ไม่มีข้อครหาใดๆควรชะลอการเลือกประธาน กกต. ออกไปก่อนแล้วดำเนินการสรรหา กกต. ให้ครบ 7 คนจากนั้นจึงเลือกประธาน กกต. คนใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้ กกต. ทั้ง 7 คน ใช้ดุลพินิจตัดสินใจร่วมกันว่าใครเหมาะสมทำหน้าที่ประธาน กกต. คนใหม่
การชะลอการเลือกประธาน กกต. คนใหม่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของ กกต. แต่อย่างใด เพราะ กกต. ชุดปัจจุบันสามารถทำงานตามอำนาจหน้าที่ได้ทุกอย่าง จนกว่าจะมี กกต. ชุดใหม่มาทำงานต่อไป
กกต. ชุดใหม่ที่จะเข้ามา ทำหน้าที่ถือว่าเป็นองค์กรอิสระที่มีความสำคัญ ที่มีส่วนทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม และทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้โดยไม่มีปัญหาอุปสรรคใดๆ แต่ถ้าการสรรหา กกต. และ การเลือกประธาน กกต. คนใหม่เป็นไปด้วยความไม่ถูกต้องสมบูรณ์ย่อมก่อให้เกิดข้อครหา และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของ กกต.
เพราะฉะนั้นการทำให้ถูกต้องสมบูรณ์ไม่มีข้อครหาใดๆ จึงน่าจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติในระยะยาว จึงขอฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะประธาน สนช. พิจารณาการเลือกประธาน กกต. ให้รอบคอบเพื่อไม่ให้มีปัญหาอุปสรรคใดๆตามมาอีกต่อไป