พร้อมออกไปเผชิญหน้าโลกภายนอกหากินเลี้ยงปากท้อง หลังสหรัฐตัดงบ ส่วน รองผู้ว่าฯ เร่งทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศตัดงบประมาณสนับสนุนช่วยเหลือผู้คนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ทำให้กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในศูนย์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพื่อสิทธิมนุษยธรรม คณะรัฐมนตรี จึงมีมติมติ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 อนุญาตให้ผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวทั้ง 9 แห่ง ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 68 นี้เป็นต้นไป ซึ่งศูนย์พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบ บ้านต้นยาง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็น 1 ใน 9 แห่งที่ได้รับผลกระทบ
จากกรณีข้างต้นวันนี้ 30 ก.ย.68 นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้ตน พร้อมด้วย นางพรรณวิภา ปิยัมปุตระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายวิริยะ ทองเหลือ จัดหางานจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงปลัดอำเภอผู้แทนนายอำเภอส่งขละบุรี ผู้แทนแรงงานจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทน ผอ.สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 34 ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับองค์กรนอกภาครัฐ (NGO) ประกอบด้วย สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNHCR) องค์กร The Border Consortium (TBC) และองค์กร COERR เดินทางลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา บ้านต้นยาง หมู่ 5 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งศูนย์พักพิงดังกล่าวนั้น เป็น 1 ใน 9 ศูนย์พักพิงฯ ทั้งประเทศไทย
การลงพื้นที่ เพื่อประชุมร่วมกับคณะกรรมการพื้นที่พักพิงฯ ในการติดตามการดำเนินงาน กรณีการอนุญาตให้ผู้หนีภัยฯ สามารถยื่นขออนุญาตออกนอกพื้นที่พักพิงฯ บ้านต้นยาง เพื่อทำงานในประเทศไทย ตามมติ ครม. วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา
สำหรับศูนย์พักพิงแห่งนี้มีผู้หนีภัยจากการสู้รบมาขออาศัยอยู่ตามทะเบียน จำนวน 1,783 คน เป็นชาย 500 คน คน เป็นญิง 593 คน และเด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปี จำนวน 690 คน โดยในระยะแรกมีผู้ประสงค์สมัครใจออกไปทำงานตาม มติคณะรัฐมนตรี 36 ส.ค.68 จำนวนกว่า 900 คน ในจำนวนนี้มีเพียงประมาณ 400 คน ที่สามารถออกไปทำงานได้เลย ส่วนอีกครึ่งยังมีความกังวล เพราะพวกเขาเหล่านี้ ไม่เคยออกไปใช้ชีวิตภายนอกศูนย์ฯ จึงทำให้เกรงว่า อาจจะถูกล่อลวง หรือถูกหลอก ได้
สำหรับในกลุ่มที่พร้อมออกไปทำงาน ราว 400 คน เบื้องต้นกำหนดให้ทำงานในสถานประกอบการในพื้นที่ ที่กรมการปกครองกำหนดเอาไว้ คือ ภาคเหนือ 17 จังหวัด ภาคกลาง 18 จังหวัด และภาคตะวันออก 8 จังหวัด โดยผู้ประสงค์ที่จะจ้างคนงานต่างด้าวสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด พื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยฯ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ
นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ทั้งนี้คณะของจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการสรุปข้อมูล และความกังวล ของผู้ที่พร้อมทำงาน แต่ยังไม่กล้าออกไป เพื่อจะนำเสนอในที่ประชุมของจังหวัดฯ และจะได้มีการบูรณาการส่วนราชการที่เกี่ยวของ ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ฝ่ายด้านแรงงาน ฝ่ายด่านสาธารณสุข ร่วมกับบริษัท โรงงาน ผู้ประกอบการในพื้นที่ ที่มีความต้องการแรงงานต่างชาติกลุ่มนี้ัเข้าไปทำงาน ให้เข้าใจขั้นตอนการขออนุญาตใช้แรงงาน
รวมถึงทำความเข้าใจทั้งขั้นตอนการออกนอกพื้นที่ของบุคคลต่างด้าว เนื่องจากเกือบทั้งชีวิตพวกเขาเหล่านี้นั้น ไม่เคยออกไปทำงานนอกพื้นที่เลยแม้แต่ครั้งเดียง จึงไม่มีความเคยชิน เพราะอาศัยอยู่แต่ในศูนย์ฯ จึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่าง ทั้งเรื่องทักษะ การเรียนรู้เพิ่มเติม รวมถึงปรับสภาพให้คุ้นเคยกับสถานที่พักใหม่ๆด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านต้นยาง ตั้งอยู่กลางหุบเขา ห่างจากบ้านเวียคะดี้ลึกเข้าไปประมาณ 9-10 กิโลเมตร การเดินทางค่อนข้างลำบากเพราะต้องขึ้นเขาลงห้วยตลอดเส้นทาง ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ซึ่งศูนย์พักพิงฯ อยู่ติดกับบ้านล็อกคะนี รัฐมอญ ประเทศเมียนมา มีเพียงเทือกเขาช้างเผือกกั้นชายแดนเอาไว้ เท่านั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงที่หนีภัยจากการสู้รับฝั่งประเทศเมียนมาเมื่อในอดีต
///////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลสารินทร์