(8 ต.ค. 68) ที่ห้องประชุมทัพพระยา ศาลาว่าการเมืองพัทยา นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการเมืองพัทยา ครั้งที่ 4
โดยมีคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเข้าร่วม เพื่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานในประเด็นสำคัญ เช่น การใช้งบประมาณ การจัดเก็บรายได้ และการแก้ไขปัญหาพื้นที่สาธารณะ
นายกเมืองพัทยาได้ติดตามผลการคืนพื้นที่สาธารณะในพื้นที่ 4 จุด ได้แก่
จุดที่ 1 นาเกลือ ซอย 12 มีปัญหาด้านกรรมสิทธิ์ มอบหมายให้ปลัดเมืองพัทยาพิจารณาแนวทางออกเอกสาร น.ส.ล. เพื่อให้สามารถพัฒนาเป็นถนนสาธารณะได้
จุดที่ 2 นาเกลือ โพธิสาร ซอย 6 เชื่อมซอย 8 เหลือผู้บุกรุกรายเดียว สั่งเร่งเจรจาทำความเข้าใจและแยกดำเนินการสร้างถนนเส้นหลักไปก่อน พร้อมเร่งติดตั้งไฟส่องสว่างข้างวัดกระทึงทอง
จุดที่ 3 ที่ดินว่างถนนอรรถจินดา ให้ส่วนผังเมืองเร่งสำรวจและขอใช้พื้นที่จากจังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะหรือพื้นที่ราชการ
จุดที่ 4 ถนนสุขุมวิท 61 ติดทางรถไฟ ให้ติดตามหนังสือตอบกลับจากการรถไฟแห่งประเทศไทย และเร่งแก้ปัญหาผู้ก่อสร้างประตูปิดทางภาระจำยอม เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ทางร่วมกันได้
นอกจากนี้ เมืองพัทยายังได้รับการอุทิศที่ดินสาธารณะจากทายาทนายปริญญา ชวลิตธำรง จำนวน 2 แปลง บริเวณซอยนาเกลือ 20 และ 22 เพื่อเปิดเป็นทางเชื่อมลงทะเล รวมถึงได้ปรับปรุงพื้นที่สาธารณะหลังเมกาโฮมพัทยา (สุขุมวิท–พัทยา 85) ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ชั่วคราวแล้ว
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะ เช่น พื้นที่ของ นางสายหยุด ชมสวัสดิ์ และพื้นที่คลองพัทยาใต้ เมืองพัทยาได้ลงพื้นที่แจ้งเตือนและดำเนินการตามกฎหมาย โดยบางรายยินยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเอง
สำหรับ โครงการก่อสร้างสนามฟุตบอล สนามกีฬาภาคตะวันออก เมืองพัทยา ปัจจุบันเหลือเวลาในสัญญาอีก 78 วัน แต่มีความล่าช้าราว 7.5% เนื่องจากผู้รับจ้างเดิมทิ้งงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างสรุปราคาและแนวทางแก้ไข คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 20 ตุลาคมนี้ เพื่อเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผน
ด้าน โครงการหลังคาคลุมทางเดินท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ดำเนินการแล้วเสร็จ 100% กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองพัทยา รองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน
นายปรเมศวร์ย้ำให้ทุกหน่วยงานรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานต่อเนื่อง และเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้ความเปลี่ยนแปลงของเมืองพัทยา เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และสร้างความเชื่อมั่นอย่างยั่งยืน