ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
“ศรีสะเกษ” นอภ.ภูสิงห์ ติวเข้มพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดน ขณะที่ เสธ.หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ระบุ จะบอกได้ว่าพื้นที่ปลอดภัยก็ต่อเมื่อทหารเขมรถอนกำลัง
10 ต.ค. 2568

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนวนาสวรรค์ ต.ไพรพัฒนา ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา คณะครู นักเรียน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกัน เปิดเวทีเสวนาเพื่อถอดบทเรียนและสรุปแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ได้รับผลกระทบจากกองกำลังภายนอกประเทศ จากผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงในพื้นที่ตามแนวชายแดน อีกทั้งเพื่อสร้างขวัญกำลังใจร่วมกัน

นายบัญชา จันทร์ณรงค์ นายอำเภอภูสิงห์ กล่าวในวงเสวนาว่า สถานการณ์ความตึงเครียดในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ อาจจะมีแนวโน้มที่จะเกิดสถานการณ์ขึ้น และตนได้พยายามแจ้งไปทาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชุม ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ทราบ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ตอนนี้ก็คือ ถ้าต้องอพยพ เราก็จำเป็นต้องอพยพทั้งอำเภอ จึงให้มีการเตรียมการไว้ เก็บข้าวของที่จำเป็น ตอนนี้เตรียมไว้เลย ให้เตรียมไว้ ไม่ใช่ให้อพยพ เก็บสัมภาระไว้ พร้อมที่จะหยิบและอพยพไปได้เลยหากเกิดสถานการณ์ขึ้น จะได้ไม่ต้องกลับมาเก็บอีก โดยเฉพาะเสื้อกันหนาว ให้เตรียมไว้ด้วย เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันจะเกิดขึ้นจริงไหม ถ้าทุกคนได้เตรียมของส่วนนี้แล้ว เราก็พร้อมที่จะไป และให้ใช้แผนเดิมในการอพยพ ไปที่ศูนย์อพยพเดิม จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง 

ทั้งนี้ บทเรียนที่ผ่านมาด้วยความโชคดี ที่ทางกองกำลังในพื้นที่ สามารถเจรจากันได้กับกองกำลังฝ่ายตรงข้าม ที่จะไม่เปิดแนวยิง บริเวณพื้นที่ อ.ขุนหาญ และอ.ภูสิงห์ ที่ผ่านมาเราจึงปลอดภัย ไม่มีลูกกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่แม้แต่นัดเดียว ก็เนื่องจากเรามีจุดผ่านแดนช่องสะงำ ซึ่งเป็นจุดอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นด้านมนุษยธรรมต่างๆ ช่วงที่เกิดเหตุสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการส่งศพทหารชาวกัมพูชา กลับประเทศ ทั้งจากพื้นที่แนวปะทะ ที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนศรีสะเกษ และจ.สุรินทร์ จุด อ.ภูสิงห์ จึงเป็นจุดอำนวยความสะดวก ซึ่งความสัมพันธ์ตรงนี้เราได้เปรียบ แต่ในอนาคตเราก็ไม่แน่ ก็ขอให้ทุกส่วน ได้มีการเตรียมพร้อม

ขณะที่ พ.ท.คณิน ภัทรพงศ์พิพัฒน์ เสนาธิการ หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กล่าวในวงเสวนาว่า ที่ผ่านมาพบว่าผู้นำทางทหารของกัมพูชา เขาจะมีบ้านพักนายทหาร อยู่ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.ภูสิงห์ เป็นจำนวนมาก  เพราะฉะนั้นทหารกัมพูชา จึงพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะบริเวณนี้ แต่เราก็ยังไว้ใจเขมรไม่ได้ บางทีมันก็บ้า ไม่มีกฎระเบียบ คิดจะทำอะไรมันก็ทำ เกิดมันเอาที่อื่นไม่ได้ แล้ววกกลับมาลงที่จะเรา ก็อาจเป็นไปได้ อยากให้ทุกคนได้เตรียมความพร้อม 

ซึ่งในพื้นที่ของเรา ในช่วงสถานการณ์ได้มีโดรนบินว่อนจำนวนมาก อยากให้กองกำลังประจำถิ่น มีการประสานกัน เพราะมันมีโดรนมาบินในพื้นที่ตอนใน แสดงว่า มันมีพวกสายลับ หรือบางทีก็มีการจ้างพวกติดยา ให้เอาโดรนมาบิน ถ้าเกิดมีการตรวจพบ ก็อยากให้เป็นหูเป็นตาช่วยกัน รวมถึงชาวบ้านด้วย ถ้าเห็น หรือตรวจพบ ก็อยากให้รีบแจ้งกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการในการปฏิบัติตามกฎหมายต่อไป

สำหรับ ระยะทางการบินของโดรน ประมาณ 2-5 กิโลเมตร ถ้าได้พี่น้องประชาชนที่อยู่ตามหมู่บ้านช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ก็จะดี เพราะพวกนี้จะบินในที่ลับตาคน ในช่วงเวลาที่จะปล่อยโดรน  ส่วนความคืบหน้าของสถานการณ์ ในช่วงนี้ก็ยังคงเงียบๆ แต่ว่าเราไว้ใจไม่ได้หรอก เราจะบอกได้ว่าปลอดภัย ก็ต่อเมื่อกัมพูชาถอนกำลังทหารกลับไป แต่ตอนนี้ยังคงตรึงกำลังอยู่ มันไม่ถอน ถ้ามันยังไม่ถอนกลับ มันก็พร้อมเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และมันไม่สนใจกฎระเบียบอะไรทั้งสิ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ตามแนวชายแดน อ.ภูสิงห์ ขณะนี้มีความพร้อมเต็มร้อย เพราะมีประสบการณ์การอพยพในรอบที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้มีการเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ของใช้จำเป็น วางแยกไว้และอพยพทุกเมื่อ.


ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 ตุลาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
02 ต.ค. 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก 461 นับแต่ภัยอาชญากรรมออนไลน์เริ่มอาละวาด หนักขึ้น ต้นเหตุหนึ่งก็มาจากข้อมูลส่วนบุคคลของ ประชาชนรั่วไหลไปถึงมือมิจฉาชีพ ซึ่งเกิดขึ้นได้ ทั้งการจงใจหลอกลวงหรือแม้กระทั่งหน่วยงานทั้ง ภาครัฐ-เอกชน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ กฎหมายฉบับหนึ่ง จึงถูกตร...