ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ย้อนกลับ
ธีรศักดิ์ จตุพงษ์ รองปลัดเมืองพัทยา การพัฒนาเมืองพัทยาในอนาคต ควรมุ่งเน้นการเป็น “เมืองท่องเที่ยวยั่งยืน”
15 ต.ค. 2568

                กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านมา การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นจะดู ลุ่มๆ ตอนๆ ไปในในแต่ละช่วงเวลาบ้าง แต่สิ่ง ที่สำคัญที่จำต้องได้อีกประการหนึ่งคือ การพัฒนา นักบริหารงานท้องถิ่น มีความรุดหน้าขึ้น เป็นลำดับ จนปัจจุบันกล่าวได้ว่า เรามีนักบริหาร งานท้องถิ่นในระดับผู้ชานาญการเติบโตขึ้น อย่างมากมาย และ 1 ในจำนวนนั้น ที่อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก จะพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักในฉบับนี้ก็คือ คุณธีรศักดิ์ จตุพงษ์รองปลัดเมืองพัทยา(นักบริหาร งานท้องถิ่น ระดับสูง) ที่ดูแลรับผิดชอบ ส่วนพัฒนา รายได้ สำนักคลัง สำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม (ส่วนควบคุมโรค ส่วนส่งเสริมอนามัยสิ่งแวดล้อม) สำนักการศึกษา ส่วนบริหารทรัพย์สิน สำนักพัสด และทรัพย์สิน ของเมืองพัทยา ที่มีรูปแบบ การปกครองพิเศษที่แตกตำงไปจากเมืองอื่นๆ

รองฯ ธีรศักดิ์ในวัย 58 ปี เปิดใจกับ อปท.นิวส์ ตัวเขาเป็นเป็นคนชลบุรีโดยกำเนิด เริ่มต้นการศึกษา โดยจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จาก โรงเรียนเทศบาลอินทปัญญา มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 จากโรงเรียนชลราษฎรอำรุง มาต่อที่วิทยาลัย เกษตรกรรมชลบุรี จนจบการศึกษาชั้น ปวช. และ ปวส. ที่นี่ ก่อนที่จะไปศึกษาต่อเพิ่มเติมจนจบการ ศึกษาชั้นปริญญาตรี จากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตบางพระ (สาชาสัตวศาสตร์) ก่อนจะมา ได้ปริญญาอีก 2 ใบ คือปริญญาตรี และปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาชาชา รัฐศาสตร์

สำหรับชีวิตในวัยเด็ก รองฯ ธีรศักดิ์ บอกว่า เมื่อเป็นชาวชลบุรีและเติบโตในจังหวัดชลบุรี เป็น ลูกหลานคนชลบุรีโดยกำเนิด ขณะที่เมืองชลบุรี เป็นเมืองชายทะเลที่มีชีวิตชีวาและอบอวลไปด้วย กลิ่นไอของทะเล ครอบครัวอาศัยอยู่แถวบ้านล่าง ชายหาดบางแสน ซึ่งเป็นยำนที่ผู้คนมีน้ำใจและใช้ ชีวิตเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น ซึ่งโชคดี ที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะค่อนช้างดี มีความ เป็นอยู่ที่สบายไม่ต้องเผชิญกับความลำบากมากนัก บิดามารดาทำงานสุจริต และมักสอนให้รู้จักความกตัญญูและขยันหมั่นเพียร

“ในวัยเด็ก ผมชอบวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ตามชายหาดบางแสน ชอบเก็บเปลือกหอย หาปลาเล็กๆ ในยามน้ำลง และนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินยามเย็นกับครอบครัว และเป็นที่รักของเพื่อนบ้าน ด้วยการเลี้ยงดูอย่างอบอุ่นและสภาพแวดล้อมที่เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำให้เติบโตขึ้นอย่างมีความสุข และมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงจากรากเหง้าคนชลบุรีอย่างแท้จริง”

                ส่วนด้านการทำงาน เริ่มต้นจากการเป็นเจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เมื่อปี 2533 ไต่เต้าขึ้นมาเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองอิรุณ เมื่อปี 2539 ก้าวขึ้นเป็นนักบริหารงานทั่วไป สำนักปลัดเมืองพัทยา ในปี 2546 และหัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักปลัดเมืองพัทยา ในปีเดียวกัน 2546 และขึ้นมามาเป็นหัวหน้าฝ่ายปกครอง สำนักปลัดเมืองพัทยา ในปี 2547 ต่อด้วยหัวหน้าฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง สำนักปลัดเมืองพัทยา ในปี 2548 ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย สำนักปลัดเมืองพัทยา ในปี 2556 เป็นนักบริหารงานทั่วไประดับกลาง ในปี 2561หัวหน้าสำนักปลัดเมืองพัทยา นักบริหารงานทั่วไป ระดับสูง และขึ้นมาเป็นรองปลัดเมืองพัทยา ในปัจจุบัน

ประสบการณ์การทำงานก่อนมาเป็นรองปลัดฯ รองฯ ธีรศักดิ์ บแกว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้าสำนักปลัดเมืองพัทยา โดยกำกับดูแล วางแผน จัดทำคำสั่ง มอบนโยบายในการจัดระเบียบชุมชน การรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัย และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในเขตพื้นที่เมืองพัทยา, กำกับดูแลตรวจสอบ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในสังกัด ในการรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัย และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยร่วมบรูณาการกับหน่วยงานต่างๆ เป็นประจำทุกสัปดาห์, กำกับดูแล วางแผน จัดทำคำสั่ง มอบนโยบายในการจัดระเบียบชุมชน การรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัย โครงการค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถระบบรักษาความปลอดภัยทางบก และกำกับดูแล วางแผน จัดทำคำสั่ง มอบนโยบายในการจัดระเบียบชุมชน การรักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัย โครงการค่าใช้จ่ายเพื่อส่งเสริมขีดความสามารถระบบรักษาความปลอดภัยทางทะเล

“ก่อนที่จะได้มาดำรงตำแหน่งรองปลัด ระดับสูง ผมได้เริ่มต้นชีวิตราชการจากตำแหน่งเล็กๆ ด้วยความมุ่งมั่น อุตสาหะ และความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ตลอดระยะเวลาการทำงานได้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และพร้อมเรียนรู้พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติหน้าที่ในระดับที่สูงขึ้น โดยตั้งใจที่จะนำประสบการณ์และความรู้ที่สั่งสมมาใช้ในการพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”

ต่อข้อถามว่า การเข้าดำรงตำแหน่งรองปลัดเมืองพัทยา ได้รับหน้าที่ในด้านใดเป็นพิเศษ รองฯ ธีรศักดิ์ บอกว่า ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการพัฒนาระบบราชการภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในฐานะรองปลัดเมืองพัทยา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการจัดการภาครัฐ มุ่งผลลัพธ์ในเรื่องของสวัสดิการหรือประโยชน์ของสังคมที่เหมาะสม สาระสําคัญ โดยสรุปของหลักการพื้นฐานของการจัดการภาครัฐ ประกอบด้วย หลักประสิทธิภาพ หลักประสิทธิผล หลักธรรมาภิบาล หลักความเสมอภาค ความเป็นธรรม ในสังคม และหลักการเสริมพลัง (การมีส่วนร่วม) ส่วนผลลัพธ์ที่พึงปรารถนา คือประโยชน์สาธารณะ คุณภาพชีวิต ความผาสุก ที่ยั่งยืน และความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน

“หลักการและเงื่อนไขของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะเป็นหลักการที่นําไปสู่ความสมดุล ความมั่นคง ความยั่งยืนของชีวิต เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยอํานวยให้เกิดความผาสุขของประชาชน ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนมีความเข็มแข็ง องค์การภาครัฐ และระบบราชการเป็นที่เชื่อถือศรัทธา ความสามารถในการพึ่งตนเองทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม การบริหารการพัฒนาประเทศมีเสถียรภาพและความ เจริญก้าวหน้าและสุดท้ายบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดไป”

สำหรับความตั้งใจในการเข้ามารับหน้าที่รองปลัดเมืองพัทยา รองฯ ธีรศักดิ์ บอกว่า มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรองปลัดเมืองพัทยาด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาองค์กรให้มีความเข้มแข็ง โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน โดยยึดหลัก “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นแนวทางในการบริหารจัดการ ทั้งด้านการใช้ทรัพยากร การวางแผนงาน และการตัดสินใจ เพื่อให้ทุกการดำเนินงานอยู่บนพื้นฐานของความพอดี มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่มั่นคงในระยะยาวนอกจากการพัฒนาองค์กร

“ผมยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของผู้ใต้บังคับบัญชาส่งเสริมให้ทุกคนทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และมีจิตสำนึกในหน้าที่ เพื่อร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือและความสามัคคีในองค์กร โดยยึดหลัก “นิติธรรม” เป็นแนวทางสำคัญในการบริหาร คือการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเที่ยงธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ ข้าพเจ้ามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำที่ทำงานด้วยหัวใจของความรับผิดชอบ เสียสละ และมุ่งสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ เพื่อให้หน่วยงานเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน และเป็นองค์กรต้นแบบของการบริหารราชการที่มีคุณธรรมและจริยธรรมอย่างแท้จริง”

เมื่อถามว่า มองการพัฒนาเมืองพัทยาอย่างไรบ้างจากอดีตถึงปัจจุบัน รองฯ ธีรศักดิ์ กล่าวว่า เมืองพัทยาในอดีตเริ่มต้นจากชุมชนชาวประมงขนาดเล็กๆ ก่อนจะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วหลังสงครามเวียดนาม เมื่อกลายเป็นสถานที่พักผ่อนของทหารต่างชาติ จนต่อมาเติบโตเป็นเมืองท่องเที่ยวนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านชายหาด การท่องเที่ยวและความบันเทิง ปัจจุบันพัทยาเป็นหนึ่งในเมืองหลักทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย มีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เช่น ถนน ระบบขนส่ง และโครงการพัฒนาขนาดใหญ่เชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC

อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างรวดเร็วก็ส่งผลให้เกิดปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม มลพิษทางน้ำและเสียง ความแออัดของการจราจร รวมถึงภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวที่บางช่วงถูกมองในเชิงลบ จุดแข็งของพัทยา คือทำเลที่ตั้งใกล้กรุงเทพฯ ความหลากหลายของกิจกรรมท่องเที่ยว และความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน แต่จุดอ่อนสำคัญ คือการขาดการวางแผนระยะยาวที่ครอบคลุมและความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

           “ดังนั้น การพัฒนาเมืองพัทยาในอนาคตควรมุ่งเน้นการเป็น “เมืองท่องเที่ยวยั่งยืน” ที่ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น การสร้างเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อให้พัทยายังคงเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา ควบคู่กับความน่าอยู่และความภาคภูมิใจของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง”

ต่อข้อถามว่าโครงสร้างเมืองพัทยาเป็นอย่างไรถึงได้ชื่อเป็นการปกครองรูปแบบพิเศษ รองฯ ธีรศักดิ์ กล่าวว่า เมืองพัทยาได้รับการจัดตั้งให้เป็น “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ” ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2521 ซึ่งแตกต่างจากเทศบาลทั่วไป โดยมีโครงสร้างการบริหารที่ยืดหยุ่นและมีอำนาจในการบริหารจัดการตนเองมากขึ้น เพื่อรองรับลักษณะของเมืองท่องเที่ยว ระดับนานาชาติ โดยเมืองพัทยามีโครงสร้างการบริหารแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติหรือสภาเมืองพัทยา

ฝ่ายบริหารนำโดย นายกเมืองพัทยา ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน มีอำนาจสูงสุดในการบริหารราชการท้องถิ่น วางนโยบายและบริหารงานด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการพัฒนาเมือง ส่วน ฝ่ายนิติบัญญัติหรือสภาเมืองพัทยา ทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติในระดับท้องถิ่น มีสมาชิกมาจาก การเลือกตั้ง ทำหน้าที่กลั่นกรองงบประมาณ ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหาร และออกข้อบัญญัติท้องถิ่นลักษณะพิเศษของเมืองพัทยาคือการรวมพื้นที่หลายตำบลเข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารเดียว ทำให้สามารถวางแผนพัฒนาอย่างเป็นระบบ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจโดยรวม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นพิเศษในฐานะ “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวระดับโลก” และ “เมืองหลักของเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)” ซึ่งทำให้เมืองพัทยามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง

                สำหรับผลงานที่ผ่านมา ในปี พ.ศ. 2565 รองฯ ธีรศักดิ์ ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณในฐานะบุคคลที่มีผลงานระดับดีเด่นด้านการส่งเสริมการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม โดยมีนโยบายที่สำคัญหลักในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในอนาคต คือ การร่วมบูรณาการในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับพื้นที่ชุมชนและระดับชาติ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในชุมชนในระดับพื้นที่เป็นไปด้วยความเข็มแข็ง มั่นคงและยั่งยืนโดยกำหนดให้เป็นนโยบายระดับพื้นที่และให้สอดคล้องกับนโยบายในระดับประเทศต่อไป

ส่วนปรัชญาการทำงานและอุดมคติในการทำงาน รองฯ ธีรศักดิ์ บอกว่า “ผู้บริหารระดับสูง (ผู้นำ) ควรยึดมั่นในความซื่อสัตย์ สุจริต และโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญใช้สติปัญญา วิสัยทัศน์ และภาวะผู้นำในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นเลิศบริหารด้วยความยุติธรรม เมตตา และรับฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชายืนหยัดในอุดมคติแห่งความเสียสละ เพื่อสร้างสังคมที่ดีงามและยั่งยืน”

                สำหรับครอบครัวในปัจจุบัน รองฯ ธีรศักดิ์ บอกว่า เต็มไปด้วยความอบอุ่นและรอยยิ้ม บ้านหลังเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ กลายเป็นสถานที่พักพิงของหัวใจหลังจากวันทำงานที่เหน็ดเหนื่อย ภรรยาผู้เป็นคู่ชีวิตคอยดูแลเอาใจใส่กันด้วยความเข้าใจและความห่วงใย ที่ร่วมฝ่าฟันเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกันตั้งแต่วัยหนุ่มสาวจนถึงวันนี้ที่ชีวิตเริ่มสงบและมั่นคงขึ้น ลูกชายทั้งสองคนได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่น่าภาคภูมิใจ ต่างเรียนจบปริญญาตรีแล้วทั้งคู่ และเริ่มต้นสร้างเส้นทางชีวิตของตนเองด้วยความมุ่งมั่น

“พ่อแม่ได้เห็นลูกๆ เดินตามฝันด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง จึงรู้สึกว่า ความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า ทุกมื้ออาหารเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ การพูดคุยหยอกล้อกันอย่างอบอุ่น และความรู้สึกซาบซึ้งในความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของคนในบ้าน ครอบครัวนี้อาจไม่หรูหรา แต่เต็มไปด้วยความสุขเรียบง่าย ที่มีค่ามากกว่าสิ่งใดในโลกใบนี้”

                เราปิดท้ายการพูดคุยด้วยคำถามว่า ได้วางแผนชีวิตในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง รองฯ ธีรศักดิ์ บอกว่า หลังเกษียณอายุราชการ มีแนวคิดในการวางแผนชีวิตในแนวทางที่สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ประสบการณ์และความรู้ที่สั่งสมมาตลอดการทำงานมาสร้างประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง การใช้ชีวิตหลังเกษียณไม่จำเป็นต้องหรูหรา แต่ควรมุ่งเน้นความเรียบง่าย มีคุณค่า และอยู่บนพื้นฐานของความพอดี ทั้งในด้านการเงิน การใช้ทรัพยากร และการดำรงชีวิตประจำวัน ในด้านเศรษฐกิจ ควรบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างรอบคอบ วางแผนการลงทุนและการใช้จ่ายให้เหมาะสมกับรายได้ที่ลดลง

“พร้อมทั้งอาจพัฒนาอาชีพเสริมขนาดเล็ก หรือทำกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน เช่น เกษตรอินทรีย์ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หรือการถ่ายทอดความรู้ให้คนรุ่นใหม่ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมอย่างยั่งยืนสุดท้าย การวางแผนชีวิตหลังเกษียณไม่เพียงเพื่อความสุขส่วนตัวเท่านั้น แต่ควรเป็นการสร้าง “คุณค่าชีวิต” ที่สมดุลระหว่างจิตใจ เศรษฐกิจ และสังคม ดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี มีความสุขเรียบง่าย และยังคงเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่คนรุ่นหลังได้ยึดถือและสืบสานแนวคิดแห่งความพอเพียงต่อไป” รองฯ ธีรศักดิ์ กล่าวในที่สุด

 

** อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก 462

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16-31 ตุลาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...