นายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับกองเรือฝึกที่ 83 (Fleet 83) ของกองทัพเรือสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีบุคคลสำคัญจากภาคส่วนต่างๆ มาร่วมต้อนรับ รวมถึง ดร.กำพล มหานุกูล นายกสมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีน พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ซึ่ง เรือรบ ‘ฉีจี้กวง-อี้เหมิงซาน’ เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 5 วัน เทียบท่าที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 16 ตุลาคม 2568 การมาเยือนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างสองประเทศ และเปิดเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ทางเรือและการฝึกทางทะเล
กองเรือที่ 83 ประกอบด้วยเรือรบขนาดใหญ่สองลำ ลำแรกคือเรือฝึกฉีจี้กวง (Qi Jiguang) หมายเลข 83 ซึ่งเป็นเรือฝึกขนาด 9,000 ตัน ความยาว 165.3 เมตร สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 22 น็อต โดยมีพลเรือตรี เฝิง เหลียง (Feng Liang) เป็นผู้บัญชาการ ส่วนลำที่สองคือเรือยกพลขึ้นบกอี้เหมิงซาน (Yimeng Shan) หมายเลข 988 ที่มีระวางขับน้ำถึง 25,000 ตัน ความยาว 210 เมตร และสามารถทำความเร็วได้ 25 น็อต ภายใต้การบังคับบัญชาของพลเรือตรี นิว จื้อหยง (Niu Zhiyong) ซึ่งทั้งสองลำถือเป็นกำลังสำคัญของกองทัพเรือจีนในการปฏิบัติภารกิจระหว่างประเทศ
เรือทั้งสองลำได้เข้าเทียบท่าที่ฐานทัพเรือสัตหีบในช่วงเช้าวันที่ 16 ตุลาคม เวลา 10.00 น. โดยมีพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ และเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับเรือรบของกองทัพเรือจีน กำหนดให้มีการเปิดเรือสำหรับเยี่ยมชมในหลายช่วงเวลา วันที่ 16 ตุลาคม เปิดให้เข้าชมทั้งเรือหมายเลข 83 และ 988 ในช่วงเวลา 10.30 – 11.30 น. และ 14.30 – 17.00 น. จากนั้นวันที่ 17 ตุลาคม จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะเรืออี้เหมิงซานในช่วงเช้า 08.30 – 11.30 น. และช่วงบ่าย 14.30 – 17.00 น. ก่อนที่ในช่วงค่ำจะมีงานเลี้ยงรับรองบนเรือฉีจี้กวง ซึ่งสงวนสำหรับผู้ได้รับเชิญเท่านั้น
ในวันที่ 18 ตุลาคม ประชาชนยังสามารถเข้าชมเรือทั้งสองลำได้ในช่วงเวลาเดิม ส่วนวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะในช่วงเช้า เว
ลา 08.30 – 11.30 น. โดยหากมีการเปลี่ยนแปลงของกำหนดการจะมีการแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม ภารกิจการเยือนของกองเรือที่ 83 จะสิ้นสุดลงในวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม ซึ่งจะมีพิธีอำลาบริเวณท่าเทียบเรือในเวลา 09.30 น. ก่อนที่เรือรบทั้งสองลำจะออกเดินทางจากประเทศไทยในเวลา 10.00 น. ทิ้งไว้ซึ่งภาพแห่งมิตรภาพและความร่วมมือด้านการทหารระหว่างไทย–จีนที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น