กระทุ้งกลางสภา! นพ.เปรมศักดิ์ ถามตรงนายกฯ เหตุใดอดีตอธิการบดีรามคำแหงถูกถอดถอน แม้หลักสูตรจากต่างประเทศได้รับการรับรอง ย้ำเป็นตลกร้ายในวงการอุดมศึกษา ขณะที่ รมว.อว. ยืนยันจะไม่ปล่อยให้มี “เหยื่อรายต่อไป” พร้อมเร่งยกระดับมาตรฐานตรวจวุฒิให้โปร่งใส
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ในการประชุมวุฒิสภา ซึ่งมีนายมงคล สุรสัจจะ ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานที่ประชุม นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาการรับรองคุณวุฒิจากต่างประเทศเพื่อใช้ในการบรรจุและแต่งตั้งบุคลากรเข้ารับราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ว่า ปัจจุบันเกิดความไม่ชัดเจนในอำนาจหน้าที่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา โดยเฉพาะกรณีผู้ที่สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกจากต่างประเทศ ซึ่ง ก.พ. อ้างว่าไม่ใช่อำนาจของตน ส่งผลให้ผู้สำเร็จการศึกษาหลายรายไม่ได้รับสิทธิทั้งที่ควรได้รับการพิจารณาอย่างเท่าเทียมตามมาตรฐานสากล
ทั้งนี้ มีตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้สำเร็จการศึกษาจาก Pacific States University สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการรับรองโดย ACICS และเคยบรรจุเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยในตำแหน่งอาจารย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ได้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของ ก.พ. ทุกขั้นตอน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2564 หลังได้รับเลือกเป็นอธิการบดี หลักเกณฑ์เดิมถูกนำมาตรวจสอบใหม่ ทั้ง ก.พ. และ สป.อว. ถูกสอบถามซ้ำเกี่ยวกับคุณสมบัติและการรับรองวุฒิ กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือผ่านสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ตรวจสอบ Pacific States University และหลักสูตร DBA (Doctor of Business Administration) เป็นหลักสูตรปริญญาเอกด้านบริหารธุรกิจ และได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่ามหาวิทยาลัยได้รับการรับรองจาก ACICS ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996–2021 และหลักสูตร DBA ได้รับการรับรองในปี ค.ศ. 2011 ตรงกับช่วงเวลาที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ศึกษาอยู่
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศพบว่าสถาบันได้รับการรับรอง และตามมาตรฐานสากลของสหรัฐอเมริกา การรับรองสถาบันครอบคลุมการรับรองหลักสูตรด้วย แต่ข้อมูลนี้กลับไม่ถูกนำมาใช้ในการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้เกิดการถอดถอนตำแหน่งอธิการบดี ถูกเลิกจ้างจากตำแหน่งอาจารย์ เพิกถอนตำแหน่งวิชาการ และเรียกคืนเงินประจำตำแหน่ง ในขณะเดียวกันนักศึกษาไทยที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรและมหาวิทยาลัยเดียวกันในช่วงเวลาใกล้เคียงกลับได้รับการบรรจุและผ่านการรับรองคุณวุฒิจาก ก.พ. เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมและไม่เป็นมาตรฐานของการตรวจวุฒิการศึกษา
นพ.เปรมศักดิ์ ตั้งคำถามว่า รัฐบาลจะกำหนดอำนาจของ ก.พ. และ สป.อว. ให้ชัดเจนอย่างไร และจะดำเนินการเมื่อใด เพื่อรับรองคุณวุฒิต่างประเทศตามมาตรฐานสากลและป้องกันการเลือกปฏิบัติหรือการใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมสอบถามแนวทางสร้างฐานข้อมูลกลางของสถาบันการศึกษาต่างประเทศและองค์กรรับรอง เพื่อให้หน่วยงานตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.อว. ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรีว่า ก.พ. มีหน้าที่รับรองคุณวุฒิเฉพาะข้าราชการพลเรือนทั่วไป หากหน่วยงานอื่นมีหน่วยงานเฉพาะก็รับรองคุณวุฒิเอง เช่น ทหาร ตำรวจ หรือครู สำหรับกระทรวงอว. การพิจารณาจะทำโดย ก.พ.อ. ตรวจสอบหลักสูตรต่างประเทศว่าผ่านการรับรองตามกฎหมายและองค์กรวิชาชีพของประเทศต้นทางหรือไม่ หากได้มาตรฐานอุดมศึกษา ก.พ.อ. จึงออกประกาศรับรอง ทั้งนี้ การรับรองต้องครอบคลุมทั้งสถาบัน หลักสูตร และช่วงเวลา ไม่ใช่รับรองครั้งเดียวตลอดไป
รมว.อว. ยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง และในปี 2569 กระทรวงอว. จะจัดทำแพลตฟอร์มกลางให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศตรวจสอบหลักสูตรและระยะเวลาที่ได้รับการรับรอง รวมทั้งสามารถยื่นหลักฐานเพื่อขอเทียบวุฒิได้โดยตรง
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า กรณีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ ไม่ใช่ปัญหามาตรฐานทั่วไป แต่เป็นกรณีสองมาตรฐาน เพราะได้รับการสรรหาและโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งแล้ว ถูกตรวจสอบภายหลังจนเกิดการถอดถอนและเรียกคืนเงิน ซึ่งสะเทือนวงการอุดมศึกษาอย่างมาก พร้อมฝากรัฐมนตรีแก้ไขปัญหาระบบสรรหาแบบหมุนเวียน เพื่อไม่ให้เกิดมาเฟียในวงการอุดมศึกษา
รมว.อว. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า กรณีนี้มีการยื่นอุทธรณ์หลายครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง คณะกรรมการอุทธรณ์รอผลศาลเพื่อให้ความเป็นธรรม และยืนยันว่าจะไม่มีเหยื่อรายใดต้องเผชิญกรณีเช่นนี้อีก พร้อมดำเนินการเพื่อให้ระบบตรวจสอบของกระทรวงอว.เป็นมาตรฐาน โปร่งใส และปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง