ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
“ราเมศ”ยก3ข้อ ดักทางพท. ลั่นอย่าบิดเบือนความจริง
10 ส.ค. 2561

นายราเมศ  รัตนะเชวง  คณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคนพรรคเพื่อไทยบิดเบือนข้อเท็จจริงในคดีจำนำข้าวว่าเป็นคดีการเมือง ว่า เป็นเพราะรัฐบาลคสช.ไม่เคยใส่ใจชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ยังปล่อยให้มีการบิดเบือนเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม  เรื่องนี้มีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมไทยเป็นอย่างมาก คดีทุกคดีที่เกิดขึ้นกับนายทักษิณและน.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร อดีตนายกฯ รวมทั้งบริวาร ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นตามกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง เพียงแต่กลุ่มคนเหล่านี้ มีพฤติการณ์ 1.ทำผิดจริง เมื่อสู้คดีไม่ได้ มีทางเดียวคือทำลายกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะอำนาจตุลาการว่า ใช้อำนาจกลั่นแกล้ง   2.แล้วนำไปขยายผลทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเรียกร้องความเห็นใจให้ตัวเองได้ประโยชน์  3.หากมีเสียงข้างมากในสภาฯ ก็จะใช้เช่นเดียวกับกรณีการพยายามออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯสุดซอย เพื่อล้างความผิดทั้งหมด ที่ผ่านมาตลอดกว่า4 ปี คสช.ไม่เคยช่วยอธิบายถึง ที่ไปที่มาของคดีต่างๆว่า มีความเป็นมาอย่างไร แต่กลับให้กลุ่มคนเหล่านี้มาบิดเบือน ทำเหมือนปิดตาข้างหนึ่งทำเป็นมองไม่เห็น เมื่อคนของพรรคเพื่อไทยไปยื่นหนังสือถึงสถานทูตอังกฤษระบุเนื้อหาเป็นอย่างไร  รัฐบาลเองต้องดูหากเป็นข้อมูลที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง  รัฐบาลก็ต้องดำเนินการ อย่าให้คนเหล่านี้เห็นแก่ประโยชน์ของพวกตน  แต่กลับทำลายประเทศ หากกลุ่มพรรคเพื่อไทย คิดว่าคดีต่างๆไม่ถูกต้อง หรือโดนกลั่นแกล้งก็ควรประกาศเป็นนโยบายเลยว่า หากได้เสียงข้างมากหลังเลือกตั้งแล้ว จะล้างความผิดที่ศาลเคยตัดสินพวกตัสเองทั้งหมด จะได้ชัดเจน ไม่ต้องมาบิดเบือนข้อเท็จจริงให้สังคมสับสนอีก

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...