ระบุรายสำคัญ หลัง จนท.ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองสนธิกำลังวางแผนจับกุมได้ผู้ต้องหา 11 คน ทั้งอดีตแกนนำเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องที่ดินทำกิน และอดีตนักการเมืองท้องถิ่น พร้อมของกลางอื้อ 177 ท่อน ขณะผู้ว่าฯ ย้ำเอาจริงผู้กระทำผิดตัดไม้ทำลายป่าไม่ละเว้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายสา แสงสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด พ.อ.ยุทธนา เอี่ยมวิจิตร์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดงใหญ่ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ       ผู้กำกับการ สภ.โนนดินแดง และ น.ส.สุนันท์ สุขเจริญ นายอำเภอโนนดินแดง ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงรายสำคัญ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตชด.215 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้สนธิกำลังวางแผนเข้าจับกุมขบวนการค้าไม้พะยูงดังกล่าวได้ผู้ต้องหารวม 11 คน ประกอบไปด้วย นายธนพล หล้าวงศ์ษา อายุ 39 ปี นายญวณ จันทร์ดี อายุ 60 ปี นายจำรัส อันวิมล อายุ 36 ปี นายระลึกชาติ สงมา อายุ 46 ปี นายวินัย คำสุวรรณ์ อายุ 26 ปี นายศรีหนาจ ปุ้มสระเกษ อายุ 47 ปี นายสมโภช ละเอียด อายุ 53 ปี นายแบ๋ม ขาวมะเริง อายุ 49 ปี นายยง จะริรัมย์ อายุ 36 ปี นายพินิจ พรมะชุม อายุ 37 ปี และนางเอื้ออารีย์ ตุนหาสิงห์ อายุ 34 ปี ได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง
          โดยผู้ต้องหาทั้ง 11 คนที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ มีทั้งอดีตแกนนำที่เคยเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องที่ดินทำกิน และอดีตนักการเมืองท้องถิ่น พร้อมของกลางไม้พะยูง 177 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 2.33 ลูกบาศก์เมตร รถเข็นสองล้อ 5 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง
พฤติการณ์ของกลุ่มขบวนการดังกล่าว คือ นายธนพล ผู้ต้องหาที่ 1 นายญวณ ผู้ต้องหาที่ 2 และนายระลึกชาติ ผู้ต้องหาที่ 4 จะทำหน้าที่ติดต่อนายทุนมาซื้อไมพะยูงที่ อ.โนนดินแดง เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุม โดยปลอมตัวเป็นพ่อค้าไม้พะยูงติดต่อขอซื้อไม้พะยูงกับ นายธนพล ทางโทรศัพท์ ซึ่งนายธนพล ได้ตกลงขาย และขอค่าอำนวยความสะดวก จำนวน 50,000 บาท
          จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำเงินล่อซื้อไปลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนจะนัดหมายให้ นายธนพล มารับเงินเมื่อคืนวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อมีการส่งมอบเงิน และไม้ของกลาง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมควบคุมตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.โนนดินแดง เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันมีไม้หวงห้าม (พะยูง) อันยังไม่แปรรูปไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีไม้หวงห้าม (พะยูง) แปรรูปไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมปราบปรามผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอย่างจริงจัง และเด็ดขาด ทั้งให้หาแนวทางยึดทรัพย์ที่ได้จากการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้าไม้ด้วย เพื่อไม่ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวกระทำผิดซ้ำอีก พร้อมย้ำหากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องต่อขบวนการดังกล่าว จะดำเนินการเอาผิดอย่างเด็ดขาดโดยไม่ละเว้นเช่นกัน