ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
รัฐบาล “บิ๊กหนู1” เกาถูกที่คัน!
31 ต.ค. 2568

แม่ค้ายิ้มรั่ว! “คนละครึ่งพลัส”เป็นเหตุ
ผู้ว่านริศฯเดินตลาด-เชิญชวนใช้สิทธิ์

ในยามนี้ ไม่ว่าจะเหลียวไปทางไหน? ทุกตรอกซอกซอย เสียง “คนละครึ่ง” ดังกระหึ่ม ให้แซ่ด!
        
ของดียุค “ลุงตู่” ที่ “บิ๊กหนู”หยิบมาใช้เป็น “เรือธง”นำรัฐนาวา “อนุทิน 1” พรรคสีน้ำเงิน “ภูมิใจไทย” กระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ไปถึงชนชั้นกลาง ที่เดิมพันด้วยลมหายใจของอายุขัย 3 เดือนที่เหลืออยู่!

        
โครงการ “คนละครึ่ง” เป็นหนึ่งในมาตรการทางเศรษฐกิจในอดีต ของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำมาใช้ต่อกรกับผลกระทบ ที่ประชาชนเผชิญวิบากกรรม ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 (COVID-19) ช่วงปี 2563
        
ของดีที่ถูกเมินจาก “รัฐบาลอังเคิล” ที่เพิ่งล่องจุ้นไปก่อนหน้านี้  สองปีที่ครองอำนาจดูเหมือนไม่อินังขังขอบ ไม่ชอบตัวเลยพาลเกลียดไข่ หันไปฉวยเงินหมื่นมาทุ่มแจกแทน! 
        
แต่ “เกาไม่ถูกที่คัน” ไอ้สิ่งที่ “มโน”ไปว่าเหวี่ยงแห แล้วจะได้ ฉลามวาฬตัวใหญ่ กลับกลายว่า เงียบเป็นเป่าสาก!

        

โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยงัดโครงการ “คนละครึ่ง” ของเดิมออกมา “ปัดฝุ่น”ใหม่ ปรับจูนเงื่อนไขใหม่ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ เศรษฐกิจปัจจุบัน 
        
โดยรัฐบาลมุ่งหวังว่า โครงการดังกล่าวจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็ว และช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด “Quick Big Win” ที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว (Quick) เพิ่มวงเงินต่อวัน มากกว่าเดิม (Big) และขยายประโยชน์ให้ครอบคลุม (Win)
         
โครงการคนละครึ่งพลัส ผ่านมาแล้ว 2 วัน นับถึง 17.00 น. ของวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เช็คยอดเงินใช้จ่ายสะพัดมากกว่า 3,100 ล้านบาท

         
ดูการจับจ่ายซื้อขายในวันแรก ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯยืนหนึ่งคือ ร้านธงฟ้า 709 ล้านบาท ,ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 697 ล้านบาท ,ร้านทั่วไปและอื่น ๆ 474 ล้านบาท,ร้านค้าประเภทบริการ 10 ล้านบาท ,ร้านโอทอป 8 ล้านบาท และรั้งท้ายคือ ขนส่งมวลชนสาธารณะ 3 ล้านบาท
        
หากจัดอันดับ “สแกนไว” กรุงเทพมหานคร มาเป็นที่หนึ่ง ตามด้วย “ชลบุรี”มาอันดับสอง ไล่ตามด้วย นครราชสีมา,สมุทรปรากา,ปทุมธานี, นนทบุรี,สงขลา,นครศรีธรรมราช,เชียงใหม่ ปิดท้ายด้วย ขอนแก่น ล้วนแล้วแต่เป็นเมืองหลักทั้งสิ้น
        
“วินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยว่า วันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568 ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เริ่มใช้จ่ายได้เป็นวันแรก ตั้งแต่เวลา 06.00 น.จนถึงเวลา 12.30 น. เพียงครึ่งวันมีผู้ใช้จ่าย ผ่านโครงการฯ สำเร็จแล้วกว่า 2.49 ล้านราย ยอดรวมกว่า 501.11 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 252.40 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่าย 248.71 ล้านบาท 
         
ย้อนกลับมาโฟกัส “ชลบุรี” ที่ยืนแท่นมีคนไปใช้สิทธิ์ สแกนจ่าย “คนละครึ่งพลัส”มาเป็นอันดับสองของประเทศ บอกได้เลยว่า ผู้คนคึกคักและตื่นตัวอย่างมาก สำรวจตรวจสอบตามตลาดสดหลายแห่งแล้ว แม่ค้าถึงกับรอยยิ้มรั่ว เพราะกระเป๋าตุง เม็ดเงินสะพัดในทุกอำเภอ
        
วันแรกพ่อเมืองชลบุรี “นริศ นิรามัยวงศ์” นำทีมออกเดินตลาด เชิญชวนให้คนออกมาใช้สิทธิ์ พร้อมพูดคุยให้กำลังใจพ่อค้าแม่ขาย ต่างพากันยิ้มแป้น อารมณ์ดี มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย และใช้ “คนละครึ่งพลัส”จับจ่าย 
        
“คนละครึ่ง ช่วยได้จริง กระตุ้นยอดขายได้มาก คนชื้อก็ชอบ เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ คนขายก็แฮปปี้ กระเป๋าฟูฟื้นขึ้นมาเลยหลังจากการค้าขายหงอยเหงามานาน”  เสียงแม่ค้าบอกกับผู้ว่านริศฯ
         
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าฯชลบุรี ได้กล่าวเชิญชวน.... 

“การออกมาใช้สิทธิ์“ คนละครึ่ง พลัส ”ของชาวชลบุรี รวมทั้งนักท่องเที่ยว ทุกท่านคือแรงขับเคลื่อนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ขอเชิญชวนทุกคนที่มีสิทธิ์ให้รีบออกมาใช้จ่ายกันให้คุ้มค่า เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ไปด้วยกัน....”
         
โปรเจคนี้ รัฐบาล “อนุทิน 1” รับภาษาดอกไม้ ไปเต็มกระเบื้อง! 

เพราะ...“เกาถูกที่คัน”


อั๋น พันดาว รายงาน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16-31 ตุลาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...