นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างประเทศที่กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง จากความขัดแย้งทางการเมืองและการทดสอบอาวุธยุทธศาสตร์ในหลายภูมิภาคทั่วโลก ประเด็นความมั่นคงทางนิวเคลียร์ จึงกลับมาเป็นที่จับตาของประชาคมโลกอีกครั้ง สอดคล้องกับคำแถลงล่าสุดของนายโรเบิร์ต ฟลอยด์ เลขาธิการบริหารองค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (CTBTO) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่เรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมือกันอย่างจริงจังในการผลักดันให้สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (CTBT) มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้โลกหวนกลับสู่ยุคของการทดลองอาวุธนิวเคลียร์
นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวต่อไปว่า “หากมีการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นทั่วโลก ประเทศไทยมีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากร เทคโนโลยี และความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อตรวจสอบการทดลองนิวเคลียร์ภายใต้สนธิสัญญา CTBT อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบาย “Quick Win - วิทย์พิชิตภัย” ของนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ที่มุ่งผลักดันให้ทุกหน่วยงานนำองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความปลอดภัยของประชาชน และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ประเทศไทยในฐานะภาคีสมาชิกที่ให้สัตยาบัน CTBT ตั้งแต่ปี 2561 โดยมี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ได้แสดงบทบาทสำคัญอย่างต่อเนื่อง ทั้งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค การส่งเสริมการใช้ข้อมูลเพื่อประโยชน์สาธารณะ และการเสริมสร้างความร่วมมือกับประชาคมโลกด้านการตรวจสอบการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ โดยในปัจจุบัน ประเทศไทยมี สถานีเฝ้าตรวจการทดลงอาวุธนิวเคลียร์ภายใต้ระบบเฝ้าตรวจระหว่างประเทศ (International Monitoring System: IMS) จำนวน 2 แห่ง ได้แก่
1. สถานีเฝ้าตรวจนิวไคลด์กัมมันตรังสี RN65 ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สถานีในภูมิภาคอาเซียน และอยู่ระหว่างการติดตั้งระบบตรวจวัดก๊าซเฉื่อยกัมมันตรังสี (Radionuclide Noble Gas System) ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการตรวจจับนิวไคลด์กัมมันตรังสีจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
2. สถานีเฝ้าตรวจความสั่นสะเทือนของพิภพ PS41 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การดำเนินงานของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนจากการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลกและส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังศูนย์ข้อมูลระหว่างประเทศ (International Data Centre: IDC) ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมี ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ (National Data Center: NDC) ซึ่งแบ่งเป็นศูนย์ข้อมูลด้านนิวไคลด์กัมมันตรังสี ณ ปส. กรุงเทพมหานคร และศูนย์ข้อมูลด้านคลื่นไหวสะเทือน ณ กรมอุตุนิยมวิทยา กรุงเทพมหานคร เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากทั้งสองสถานี รวมถึงจากเครือข่าย IMS ทั่วโลก ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงช่วยตรวจสอบการทดลองนิวเคลียร์เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้สนับสนุนภารกิจพลเรือน เช่น การเตือนภัยแผ่นดินไหว สึนามิ และการเฝ้าระวังภัยทางรังสี เพื่อความปลอดภัยของประชาชนไทย