ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 68 ที่บริเวณท่าน้ำหน้ามัสยิดลำสนุ่น ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายสุเทพ วงษ์แจ้ง (หมอเทพ) นายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง เป็นประธานเปิดงาน โครงการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น"การแข่งขันเรือพายท้องถิ่น ประจำปี 2568” โดยมีนายมานพ เกิดแดง ปลัดเทศบาลเมืองท่าโขลง กล่าวรายงาน วัตถุประสงค์ในการจัดงาน พร้อมกันนี้ยังมี นายชนกนันท์ วงษ์แจ้ง ส.อบจ.เขตคลองหลวง นายยงยุทธ ชูประเสริฐ (จ่ายุทธ) นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง พร้อม รอง นายก และกลุ่ม สท.เมืองคลองหลวง และ กลุ่ม สท.เมืองท่าโขลง ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนและผู้บริหารจากบริษัท ห้างร้านต่างๆ ในเขตพื้นที่ เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

โดยการแข่งขันเรือพายท้องถิ่น ประจำปี 2568 ในปีนี้ มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดจำนวน 73 ทีม แบ่งเป็นประเภท ทีมประชาชนชาย ทีมประชาชนหญิง และทีมเยาวชน เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 200,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล ในขณะที่ ช่วงก่อนเปิดการแข่งขัน ได้มีการจัดนิทรรศกาลเรือเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจ อันทรงคุณค่าในด้านต่างๆ เพื่อให้พสกนิกรน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

นายสุเทพ วงษ์แจ้ง นายกเทศมนตรีเมืองท่าโขลง กล่าวว่า ประเพณีแข่งเรือพายท้องถิ่น เป็นประเพณีในช่วงหน้าน้ำของคนไทยและประเทศใกล้เคียง ถือเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอดกันตั้งมาแต่สมัยโบราณและมักมีการแข่งเรือควบคู่ไปกับการทำบุญ เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศให้งานบุญครึกครื้นขึ้น การแข่งเรือนับว่าเป็นการละเล่นที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยในชนบท ถิ่นที่อยู่อาศัยใกล้น้ำ ดังนั้นในช่วงเดือนสิบเอ็ดและเดือนสิบสอง ถือเป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชนและเพื่อความสนุกสนานให้ความเพลิดเพลิน ซึ่งได้แสดงความสามารถทั้งหญิงและชาย โดยมีผู้ดูที่มีทั้งอยู่บนตลิ่งและที่พายเรือกันไปเป็นหมู่คณะ ต่างก็สนุกสนานกันทั่วหน้า

สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานโครงการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น การแข่งขันเรือพายท้องถิ่น ประจำปี 2568 เพื่อส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีและสร้างความสามัคคี จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนในเขตเทศบาล ได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสามัคคี ความสมานฉันท์ในท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาอันงดงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป เพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรงและส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายในชุมชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจการค้าขายในชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ธีระยุทธ ศรีนวลกลาย รายงาน