ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
พิษณุโลก/ติดตามสถานการณ์น้ำ ช่วง พายุคัลแมกี พร้อมปรับแผนการระบายน้ำควบคู่กับการกักเก็บน้ำฤดูแล้ง ปี 2568/69***
10 พ.ย. 2568

      เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. นายวิทูร เกิดอินทร์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของพายุคัลแมกีมีฝนต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ลุ่มน้ำยม จ.สุโขทัย หลายแห่งมีน้ำล้นสปิลเวย์ เช่น อ่างเก็บน้ำแม่มอก ปริมาณน้ำเก็บกัก 115.32 ล้าน ลบ.ม. (104.84%), อ่างเก็บน้ำห้วยท่าแพ ปริมาณน้ำเก็บกัก 66.71 ล้าน ลบ.ม. (115.02%), อ่างเก็บน้ำห้วยแม่รำพัน ปริมาณน้ำเก็บกัก 5.71 ล้าน ลบ.ม. (101.49%), อ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย ปริมาณน้ำเก็บกัก 13.94 ล้าน ลบ.ม. (107.24%) มีน้ำล้นสปิลเวย์รวมกับน้ำระบาย จึงยังคงมีปริมาณน้ำเหนือจากน้ำคลองม่รำพัน และจากทุ่งทะเลหลวงเกิดการท่วมในพี้นที่ด้านทิศตะวันตกของ จ.สุโขทัย ซึ่งมีเส้นทางน้ำจะหลากลงมาทางคลองสารบบ คลองสามพวง จาก อ.คีรีมาศ ไหลหลากลงสู่พื้นที่ตอนล่างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยังเสี่ยงภัยอาจจะได้รับผลกระทบที่มีการท่วมขังอยู่เดิมในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำยมอำเภอบางระกำ ที่ฝั่งขวาแม่น้ำยม คือ ต.คุยม่วง, ต.ชุมแสงสงคราม ต.ท่านางงาม ต.บางระกำ, ต.หนองกุลา, ต.บึงกอก และ ต.วังอิทก ของ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ซึ่งช่วงที่ผ่านมาปริมาณน้ำในทุ่งบางระกำที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีกหรืออาจจะส่งผลให้การระบายน้ำทำได้ช้ากว่าปกติ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลกได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชลประทานลงพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อลดระดับน้ำในพื้นที่ เน้นการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและแนวโน้มสถานการณ์ในอนาคต พร้อมปรับแผนการระบายน้ำอาคารชลประทาน ดูแลเส้นทางน้ำต่างๆ ในการเร่งระบายน้ำ ให้ลำน้ำสาขา ลำห้วย หนอง คลอง บึงต่างๆ โดยเฉพาะในแม่น้ำยมสายหลัก ปตร.วังสะตือ, ปตร.ท่านางงาม,และ ปตร.ท่าแห ให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำฝน-น้ำท่า เพื่อให้น้ำไหลลงสู่แม่น้ำสายหลักได้ดีลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาได้คลี่คลายลงหลายพื้นที่แล้วคาดว่า หลัง 15-30 พฤศจิกายน 2568 ก็จะกลับเข้าสู่ระดับเก็บกักปกติของอาคารชลประทานต่างๆดังกล่าวไว้ใช้ฤดูแล้งต่อไป 

       
สำหรับปริมาณน้ำจากเขื่อนหลัก คือ เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก ปริมาณน้ำเก็บกัก 13,281.79 ล้าน ลบ.ม. ( 99% ) ปริมาณน้ำใช้การ 9,481.79 ล้าน ลบ.ม. (98%) ,เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ น้ำ ปริมาณน้ำในเขื่อน 9,258 ล้าน ลบ.ม. 97 % ,และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ปริมาณน้ำในเขื่อน 945 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 101 % -แม่น้ำยม ที่สถานีวัดน้ำ Y.64 อ.บางระกำ ระดับน้ำ +40.14 ม.รทก. มีอัตราน้ำไหลผ่าน 500.50 ลบ.ม./วินาทีคิดเป็น 142.18% ของความจุลำน้ำ (มากกว่าเมื่อวาน 4.1 ลบ.ม./วินาที) แก้มลิงบึงระมาณ ,บึงตะเคร็ง ,บึงขี้แร้ง ความจุเก็บกักรวม 31.94 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำเก็บกักปัจจุบัน 20.82 ล้าน ลบ.ม. (65.18%) -แม่น้ำน่าน ที่สถานีวัดน้ำ N5A เมืองพิษณุโลก   ระดับน้ำ +39.89 ม. รทก. (ระดับตลิ่ง +44.87) มีอัตราน้ำไหลผ่าน 498.50 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 36.52% ของความจุลำน้ำ (มากกว่าเมื่อวาน 67 ลบ.ม./วินาที)
       

อย่างไรก็ตามกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2568 ต่อจากนี้ต้องคำนึงถึงการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ดังนั้นต้องปรับแผนการระบายน้ำควบคู่กับการกักเก็บน้ำไว้ตามแหล่งน้ำต่างๆ ไม่ให้น้ำไหลไปหมดอย่างไร้ประโยชน์ เช่น อาคารบังคับน้ำต้องปรับลดบานระบายน้ำให้เหลือน้ำที่ระดับเก็บกักเหนือประตูระบายน้ำต่างๆ รวมทั้งจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่นแก้มลิงบึงระมาณ บึงตะเคร็ง บึงขี้แร้ง เป็นต้น เพื่อใช้วางแผนจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2568/69 ตามลำดับความสำคัญของกิจกรรมการใช้น้ำ ได้แก่ อุปโภคบริโภค รักษาระบบนิเวศ การเกษตร อุตสาหกรรม พร้อมกิจกรรมอื่นๆ ต่อไป

พิษณุโลก/ศริตวรรธน์ อัครชินพรรณ /0661326136

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 พฤศจิกายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...