ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ครม.เห็นชอบผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ–1 บี ทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย
18 พ.ย. 2568

ครม.เห็นชอบผ่อนผันใช้พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ–1 บี ในป่าสงวนจังหวัดสระบุรี ทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) ภายใต้มาตรการสิ่งแวดล้อมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

วันนี้ 18 พฤศจิกายน 2568 นางสาวลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงอุตสาหกรรม เสนอขอผ่อนผันให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (แก่งคอย) จำกัด ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ 1 บี 1 เอเอ็ม และ 1 บีเอ็ม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทับกวางและป่ามวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เพื่อการทำเหมืองแร่หินปูนและหินดินดานสำหรับอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ในพื้นที่รวมประมาณ 2,575 ไร่ 1 งาน 37 ตารางวา

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เหมืองเดิมที่มีการทำเหมืองมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ตามประทานบัตรเดิมที่จะครบกำหนดอายุในวันที่ 26 กันยายน 2570 โดยแหล่งแร่นี้เป็นวัตถุดิบหลักป้อนโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในจังหวัดสระบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิตคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 12.14 ของบริษัทผู้ผลิตปูนซีเมนต์ที่จดทะเบียนในประเทศทั้งหมด ปริมาณสำรองแร่ของโครงการรวมทั้งหินปูนและหินดินดานมีมูลค่าประมาณ 75,702 ล้านบาท ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินว่า “มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและสังคม” เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบมาตรการที่กำหนด

ทั้งนี้ พื้นที่คำขอประทานบัตรทั้ง 5 แปลง อยู่ในเขตป่าสงวนและลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ และ 1 บี ตามมติคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา การใช้ประโยชน์จึงต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาผ่อนผันเป็นกรณีเฉพาะ โดยก่อนเสนอ ครม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กรมป่าไม้ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมตรวจสอบพื้นที่ พร้อมทั้งจัดทำและพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบแล้ว

รายงาน EIA ได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น การเว้นแนวกันชน (Buffer Zone) รอบพื้นที่เหมือง การควบคุมฝุ่น เสียง แรงสั่นสะเทือน การติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจัดตั้งกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนและกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบเหมือง โดยมีผู้แทนชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่นร่วมบริหารจัดการกองทุนอย่างต่อเนื่อง

รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ต่างไม่มีความเห็นขัดข้องต่อการขอผ่อนผันครั้งนี้ โดยยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใน “เขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมือง” ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรีเคยเห็นชอบแล้ว

การพิจารณาในครั้งนี้เป็นเพียง “การผ่อนผันให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ 1 บี 1 เอเอ็ม และ 1 บีเอ็ม เพื่อทำเหมืองแร่” ตามหลักเกณฑ์มติคณะรัฐมนตรีเดิมเท่านั้น หลังจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย แผนแม่บท และมาตรการสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ก่อนการอนุญาตประทานบัตรต่อไป

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...