DPU–COCO LOVE ผนึกพลังปลุกศักยภาพนักศึกษา เปิดเวทีผลิตคลิปสั้น COCO LOVE รังสรรค์ผลงานกว่า 405 ทีม ชูงานจริงจากโจทย์จริง
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมกับบริษัท ยูนิคอร์น คอนซูเมอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมะพร้าวแท้ 100% ภายใต้แบรนด์ COCO LOVE ประกาศรางวัลโครงการ “COCO LOVE Love Yourself Drink For Your Health” โครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1–4 จากคณะนิเทศศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และวิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี ตลอดจนวิทยาลัย/คณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ผลิตคลิปวิดีโอสร้างสรรค์ความยาว 30–60 วินาที เพื่อชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 39,000 บาท
ภายในงานได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร. พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดี สายงานวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นประธานเปิดงาน โดยมี ผศ. ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ ผศ.กมลศิริ วงศ์หมึก คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ และผศ.กรุณา แย้มพราย รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี ตลอดจนคณาจารย์และนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง นอกจากนี้ยังมี ผู้บริหารของ COCO LOVE ได้แก่ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.อัจฉรา จันทร์ฉาย ประธานที่ปรึกษา, นายอาชวิน โรจนชัยชนินทร กรรมการผู้จัดการ และคณะผู้บริหารเข้าร่วมงาน เพื่อแสดงพลังความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจ

ผศ.ดร. พัทธนันท์ กล่าวถึงผลการประกวดคลิปวิดีโอภายใต้แคมเปญ “COCO LOVE Love Yourself Drink For Your Health”ว่า การประกวดครั้งนี้มีผลงานส่งเข้าร่วมกว่า 405 ทีม และได้รับการคัดเลือก 12 คลิปเข้ารับรางวัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความทุ่มเทของนักศึกษาทุกคนอย่างชัดเจน โดย “ทุกทีมเก่งทุกคน” เพราะได้ผ่านกระบวนการทำงานจริงร่วมกับผู้ประกอบการ ตั้งแต่รับโจทย์ วางแผน ผลิตงาน ไปจนถึงการรับผิดชอบตามกรอบเวลาที่กำหนด
ผศ.ดร. พัทธนันท์ ระบุว่า จุดสำคัญของโครงการไม่ได้อยู่ที่การแข่งขัน แต่คือการที่นักศึกษาได้รับ “โจทย์จริงจากแบรนด์จริง” ผ่านผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว COCO LOVE ทำให้นักศึกษาต้องคิดงานสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ทั้งการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย เทคนิคการผลิตคอนเทนต์ และการทำให้คลิปโดดเด่นจนกลายเป็นไวรัล โดยเฉพาะในยุคคลิปสั้นที่ต้อง “ดึงดูดผู้ชมให้ได้ภายใน 5–20 วินาทีแรก”
รองอธิการบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า นักศึกษาหลายทีมมีความสร้างสรรค์สูง ถ่ายทอดคอนเทนต์ในรูปแบบที่ “สนุก ทำให้คนดูหัวเราะไปด้วย” ซึ่งเป็นหัวใจของการทำงานสื่อไวรัล และทำให้ผู้ชมจดจำแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมชี้ว่า การลงมือทำในครั้งนี้ทำให้นักศึกษาเห็นภาพจริงว่า “คอนเทนต์แบบไหนทำให้คนอยากติดตาม”
นอกจากนี้ ผศ.ดร. พัทธนันท์ ยังนำประเด็นจากการสนทนากับผู้บริหารบริษัทฯ มาขยายความให้นักศึกษาเข้าใจ “ห่วงโซ่อุตสาหกรรมมะพร้าว” และแนวโน้มตลาดโลก เช่น แหล่งวัตถุดิบสำคัญของไทยในจังหวัดราชบุรีและสมุทรสงคราม การที่ประเทศไทยต้องนำเข้ามะพร้าวเพิ่มขึ้นหลังโควิดถึงเกือบ 5 เท่า และความต้องการบริโภคน้ำมะพร้าวที่พุ่งสูงในจีนและสหรัฐอเมริกา ชี้ให้เห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดอย่างมหาศาล
และจากข้อมูลด้านสุขภาพ รองอธิการบดีฯ ยังเชื่อมโยงกลับมาที่สารหลักของแคมเปญ “Love Yourself Drink for Your Health” ว่าคอนเทนต์ที่ดีควรสื่อสาร “ประโยชน์ของสินค้า” ควบคู่ความสนุก ซึ่งจะทำให้คลิปมีคุณค่าและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดี คณะนิเทศศาสตร์ เปิดเผยถึงโครงการ “COCO LOVE Love Yourself Drink For Your Health” ว่าเป็นกิจกรรมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและบริษัท ยูนิคอร์น คอนซูเมอร์ กรุ๊ป จำกัด โดยมี 3 หน่วยงานหลักของ DPU ได้แก่ คณะนิเทศศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และวิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี ร่วมกันออกแบบและดำเนินกิจกรรม เพื่อเป็นพื้นที่ให้นักศึกษาได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ผ่านงานจริงจากโจทย์จริงของแบรนด์ COCO LOVE
คณบดี คณะนิเทศศาสตร์ ระบุว่า วัตถุประสงค์สำคัญของโครงการ คือการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะด้านการสื่อสารอย่างครบถ้วน ผ่านการผลิตคลิปวิดีโอที่สะท้อนแนวคิด “Love Yourself Drink for Your Health” พร้อมนำองค์ความรู้จากห้องเรียนมาประยุกต์กับการเล่าเรื่องเพื่อสื่อสารแนวคิดการดูแลสุขภาพให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจสูงที่สุดของปี โดยมีนักศึกษาสมัครเข้าร่วมมากถึง 405 ทีม จาก 7 คณะ รวมกว่า 1,000 คน แสดงให้เห็นถึงความสนใจของเยาวชนในการพัฒนาทักษะสื่อสาร การตลาด และการทำงานร่วมกับแบรนด์จริง โดยผลงานที่ส่งเข้าประกวดมีความหลากหลายทั้งด้านไอเดีย เทคนิคการผลิต และรูปแบบการเล่าเรื่อง เนื่องจากมาจากนักศึกษาหลายสาขา ซึ่งช่วยฉายภาพศักยภาพของนักศึกษา DPU ทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการทำงานเป็นทีม และความเข้าใจโจทย์ของผู้ประกอบการอย่างลึกซึ้ง พร้อมย้ำว่าโครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงเวทีประกวด แต่เป็น “ห้องเรียนชีวิตจริง” ที่ช่วยให้นักศึกษาได้ฝึกทำงานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการทำความเข้าใจโจทย์ การวางแผนคอนเทนต์ การผลิต ไปจนถึงการนำเสนอผลงาน เหมือนกระบวนการทำงานจริงในอุตสาหกรรมสื่อและการตลาด
ด้านศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.อัจฉรา จันทร์ฉาย ประธานที่ปรึกษาบริษัท ยูนิคอร์น คอนซูเมอร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ว่า มาจากการค้นคว้าข้อมูลด้านสถาบันที่มีความโดดเด่นในสายสื่อสาร มัลติมีเดีย งานสร้างสรรค์ และงานวิจัย ซึ่ง DPU ปรากฏเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ในด้านนี้ อีกทั้งยังเคยทำงานร่วมกับอาจารย์และบุคลากรของ DPU ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ จึงรู้สึกคุ้นเคยและเชื่อมั่นในศักยภาพของคณาจารย์และนักศึกษา พร้อมย้ำว่า โครงการนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สร้าง Portfolio ที่นำไปใช้สมัครงานได้จริง แต่ยังอาจเป็นช่องทางให้หลายคนได้ร่วมงานกับCOCO LOVE ในอนาคต พร้อมขอบคุณทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะรองอธิการบดีสายงานวิชาการ ที่ช่วยสร้างความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังกล่าวเชิญชวนให้นักศึกษายกมือ “คนที่อยากได้รางวัล” ในงาน และระบุว่า หากบรรยากาศยังอบอุ่นและเต็มไปด้วยพลังสร้างสรรค์เช่นนี้ “ปีหน้าอาจารย์จะกลับมาร่วมงานกับ DPU อีกแน่นอน”
ขณะที่คุณอาชวิน โรจนชัยชนินทร กรรมการผู้จัดการ และเจ้าของแบรนด์ COCO LOVE กล่าวขอบคุณมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่เปิดพื้นที่ให้บริษัทได้ร่วมพัฒนาเยาวชน พร้อมระบุว่าโปรแกรมนี้เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่บริษัทให้ความสำคัญมาก เพราะช่วยให้นักศึกษาได้ฝึก “ทำงานจริงจากโจทย์จริง” โดยโจทย์ของงานนี้คือการทำ Viral Content ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ความท้าทายอยู่ที่การทำให้ผู้ชม “หยุดดูภายใน 5–20 วินาทีแรก” ซึ่งเป็นเวลาอันสั้นแต่เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างคลิปไวรัล โดยผลงานที่ชนะไม่จำเป็นต้องดีที่สุด แต่คือ “ผลงานที่ตรงโจทย์ที่สุด” และชื่นชมความแตกต่างของไอเดียจากนักศึกษาหลายคณะ ทั้งนิเทศศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ฯ และคณะอื่น ๆ ซึ่งล้วนมีสไตล์การเล่าเรื่องที่เฉพาะตัว ขณะที่คณะกรรมการตัดสินก็พยายามใช้มาตรฐานที่เป็นธรรมที่สุด พร้อมย้ำอีกว่านักศึกษาที่ไม่ได้รับรางวัลว่าไม่ควรรู้สึกผิดหวัง เพราะสิ่งที่ได้รับจากโครงการคือ “ประสบการณ์จริง” ที่สามารถนำไปต่อยอดเป็น Portfolio หรือแม้แต่โอกาสในการเป็น Influencer กับแบรนด์อื่น ๆ ได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตามจากจำนวนผลงานกว่า 400 คลิป ซึ่งมีผู้เข้าร่วมหลักพันคน ทำให้บริษัทเห็นศักยภาพของนักศึกษา DPU และเริ่มพิจารณา “จัด Season 2” ของโครงการนี้ในปีถัดไป

นอกจากนี้คุณอาชวิน ยังประกาศแนวทางสร้างเครือข่ายเพื่อน “COCO LOVE” กลุ่มตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีบทบาทช่วยสื่อสารแบรนด์และผลิตคอนเทนต์สู่ผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่ม Gen X, Gen Y, Gen Z และ Gen Alpha เพื่อขยายพลังการสื่อสารของแบรนด์ให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น
สำหรับรางวัลชนะเลิศ (10,000 บาท) จากทีม “ลูกหมู 3 ตัว” คณะนิเทศศาสตร์ ,รางวัล Best Influencer จากทีม “ลูกคุณหนู” คณะนิเทศศาสตร์ , รางวัล Best Creative จากทีม “DNF” คณะนิเทศศาสตร์ , รางวัล Best Motion & Animation จากทีม “ชื่อทีมอะไรเอ่ย” วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ฯ , รางวัล Best Visual Effect จากทีม “Dope” คณะศิลปกรรมศาสตร์–คณะนิเทศศาสตร์ ,รางวัล Best Storytelling จากทีม “แมนยูห้าพัล” คณะนิเทศศาสตร์ , รางวัล Best Funny Story จากทีม “สิโก้ริว” คณะนิเทศศาสตร์
โดยรางวัล Winner of Campaign จากการประกวดผลงานคลิปสั้น ได้แก่ ทีม “ลูกหมู 3 ตัว” โดยมี นางสาวธนิสร ทีปนะ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการสร้างสรรค์ดิจิทัลคอนเทนต์และสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นตัวแทนกล่าวความรู้สึกภายหลังรับรางวัลว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้รับรางวัลที่ 1 เป็นรางวัลใหญ่ที่สุดในรอบ 4 ปีของการเรียน และเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งในการคิดงาน ถ่ายทำ และตัดต่อ โดยทีมเคยมีประสบการณ์ส่งผลงานประกวดทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย และได้รับรางวัลต่อเนื่องมาโดยตลอด
ขณะที่แนวคิดการผลิตคลิป ทีมเริ่มจากการสำรวจประเด็นกระแสที่ได้รับความสนใจในสังคม และเลือกประเด็น “Wednesday” มาเป็นแกนหลัก ก่อนพัฒนาเป็นคลิปสั้นที่กระชับและน่าติดตาม ทีมประกอบด้วยนักแสดง 2 คน และตากล้อง 1 คน ทำหน้าที่ทั้งถ่ายทำ ตัดต่อ และเสริมไอเดียเชิงสร้างสรรค์ โดยผลงานครั้งนี้นำความรู้จากรายวิชาต่าง ๆ ในคณะนิเทศศาสตร์มาใช้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานการถ่ายทำ เทคนิคการตัดต่อ การเล่าเรื่องด้วยภาพ (Visual Storytelling) รวมถึงการจัดลำดับเนื้อหาให้กระชับ ทำให้ผลงานโดดเด่นทั้งด้านเทคนิคและการสื่อสาร
ทีม “ลูกหมู 3 ตัว” กล่าวทิ้งท้ายว่า การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ช่วยพัฒนาทักษะสำคัญหลายด้าน ทั้งการทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการประยุกต์ความรู้ไปใช้ในการสร้างรายได้ในอนาคต พร้อมมองว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ยังเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ หากผลิตผลงานที่น่าสนใจและเข้าถึงผู้ชมได้ ก็มีโอกาสต่อยอดสู่เส้นทางอาชีพจริงหลังเรียนจบ โดยทักษะที่สั่งสมมาตลอด 4 ปี ทั้งจากการเรียนและการลงมือทำจริง จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการก้าวสู่สายงานคอนเทนต์และการตลาดดิจิทัลต่อไป
ด้านนางสาวชนัญญา เชื่อมสมบัติ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการสื่อสารการตลาดดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ผู้ได้รับรางวัล “Best Influencer” เปิดเผยถึงความรู้สึกหลังได้รับรางวัลว่า รู้สึก “ดีใจและตกใจมาก” เพราะมีผู้เข้าร่วมกว่า 400 ทีม และมีอินฟลูเอนเซอร์ภายในมหาวิทยาลัยจำนวนมาก จึงไม่คาดคิดว่าจะได้รับรางวัลในครั้งนี้

สำหรับแนวคิดการทำคลิป นางสาวชนัญญา เล่าว่า เลือกหยิบ “Pain Point” ของตนเองเป็นจุดตั้งต้น โดยเฉพาะปัญหาหน้าบวมหลังตื่นนอน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบมากในผู้หญิง และเชื่อมโยงกับคุณสมบัติของ COCO LOVE ที่ไม่มีคอเลสเตอรอล ไม่เติมน้ำตาล และมีรสชาติอร่อย จึงได้ถ่ายทอดประสบการณ์การดื่มน้ำมะพร้าวในตอนเช้าอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ผู้ชมเข้าถึง “ความจริงใจ” ของผู้เล่าเรื่อง อีกทั้งการดื่ม COCO LOVE ช่วยลดอาการบวมได้จริง รสชาติหอม อร่อย และไม่มีสารเติมแต่ง ทำให้สามารถสื่อสารออกไปได้อย่างมั่นใจ โดยการถ่ายทำฟุตเทจทำคนเดียว ส่วนขั้นตอนตัดต่อได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนในการใส่เอฟเฟกต์และเสียงประกอบ
นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการสื่อสารการตลาดดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้โครงการนี้จัดขึ้นอีกครั้งในปีถัดไป เพราะเป็นเวทีที่ช่วยให้นักศึกษา “ค้นพบตัวเอง” ว่ามีศักยภาพด้านการทำคอนเทนต์หรือเส้นทางอินฟลูเอนเซอร์หรือไม่ และหลายคลิปที่เข้าประกวดมีคุณภาพสูงจนสามารถต่อยอดเป็นอาชีพหรือพัฒนาตัวเองในวงการครีเอเตอร์ได้ พร้อมทิ้งท้ายว่า โครงการลักษณะนี้ช่วยเปิดโลกโอกาสใหม่ให้กับนักศึกษา DPU ทั้งด้านทักษะ การสร้างรายได้ และการพัฒนางานครีเอทีฟอย่างแท้จริง