"ธนกร" สั่งกระทรวงอุตฯ รุดช่วยหาดใหญ่ มอบถุงยังชีพ-ทำโรงครัว พร้อมจัดเต็ม 3 มาตรการ ช่วยเหลือ-เยียวยา-ฟื้นฟู ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย ทั้งระยะสั้น-กลาง-ยาว
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของรัฐบาลว่า ได้มอบหมายให้ นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 11 จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งตรวจเยี่ยม “ศูนย์อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย ประสบภัยพิบัติ” ของกระทรวงฯ ในการกระจายสิ่งของจำเป็น และส่งมอบถุงยังชีพ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการในเขตพื้นที่จังหวัดสงขลา อย่างไรก็ตาม ที่ไม่ได้มอบหมายหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมให้ลงพื้นที่ทันทีตั้งแต่วันแรกๆ นั้น เนื่องจากต้องการให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่หน้างานได้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องที่จะต้องมารอให้การต้อนรับคณะที่เดินทางลงพื้นที่ เพราะประชาชนที่รอการช่วยเหลืออยู่นั้นสำคัญที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามถึงมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียม 3 มาตรการเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟู ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย โดยแบ่งแผนการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะคือ 1.มาตรการระยะสั้น ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน ผ่านกิจกรรม "อุตสาหกรรมรวมใจ ช่วยพี่น้องชาวไทย" เพื่อช่วยเหลือถุงยังชีพ น้ำดื่ม ยา และสิ่งของจำเป็น รวมถึงการจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น ยานพาหนะสำหรับขนย้าย และการสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูลสำหรับโรงงาน เกี่ยวกับแนวทางที่ควรปฏิบัติเมื่อเกิดอุทกภัย นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งศูนย์อุตสาหกรรมรวมใจ ในการเตรียมความพร้อมและจัดสรรพื้นที่เพื่อใช้เป็นศูนย์กระจายความช่วยเหลือ และศูนย์พักพิงชั่วคราว สำหรับรองรับผู้ประสบภัย
2.มาตรการระยะกลาง ซึ่งเป็นมาตรการเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น แบ่งเป็น 1.การเยียวยาผู้ประกอบการ โดยจัดทีมช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อฟื้นฟูโรงงาน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่และเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม การปรับปรุง ซ่อมแซม และฟื้นฟูเครื่องจักร อุปกรณ์ และปรับปรุงสายการผลิตให้กลับสู่สภาพปกติ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่เข้าประเมินสภาพปัญหาและให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ 2.การบริการช่วยเหลือประชาชน โดยขับเคลื่อนเครือข่ายความร่วมมือของกระทรวงอุตสาหกรรมและภาคเอกชน ในการจัดตั้งจุดบริการสำหรับประชาชน ซ่อมบำรุงและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยานพาหนะ และขยายผลสู่การซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กับประชาชน และ 3.การสนับสนุนทางการเงิน โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีและค่าธรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น และปรับโครงสร้างหนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และการร่วมมือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ และกองทุน DIPROM PAY
3.มาตรการระยะยาว ซึ่งเป็นมาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการ และปรับปรุงสภาพแวดล้อมธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ โดยมุ่งเน้นการซ่อมแซมสถานที่ อุปกรณ์ และเครื่องจักร รวมถึงการพัฒนาในระยะยาว โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 1.การฟื้นฟูและซ่อมแซม ซึ่งจะวางแผนฟื้นฟูและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและระบบคุณภาพ เช่น GMP, HACCP, GHP เพื่อฟื้นคืนเศรษฐกิจในพื้นที่ 2.การยกระดับศักยภาพธุรกิจ ซึ่งจะส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่ และการพัฒนาทักษะที่จำเป็น เพื่อสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น และ 3.การส่งเสริมการตลาด ซึ่งจะร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและเครือข่ายการพัฒนาในการสนับสนุนการตลาด สร้างช่องทางการตลาดทั้งในรูปแบบ Online และ Offline เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของ SMEs
ด้านนายฐปกรณ์ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด ไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ ที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และร่วมทำโรงครัว แจกอาหาร เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวหาดใหญ่ทุกๆ คน จำนวน 1,000 ชุด ที่โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดคลองเรียน) โดยมี นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นผู้แทนรับมอบและส่งต่อของไปช่วยเหลือประชาชนต่อไป ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยังสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด จัดทำมาตรการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ให้ครอบคลุมทุกมิติและทุกพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอีกด้วย