นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้เสนอแนวคิด ทักษิโณมิกส์ ปรับปรุงใหม่ หรือ เวอร์ชั่นใหม่ เมื่อตอนเข้ารายงานตัวกับ บก. ปอท. ในการถูกเรียกครั้งที่ 11 นั้น อยากให้มั่นใจว่า แนวคิดทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่นี้ เป็นความคิดส่วนตัวของตนในการนำหลักคิดทางเศรษฐกิจเดิมในสมัยพรรคไทยรักไทยที่ประชาชนชื่นชอบมาพัฒนาต่อยอด โดยชื่อ ทักษิโณมิกส์ นี้ อดีตประธานาธิบดี อาร์โรโยของประเทศฟิลิปปินส์เป็นผู้ตั้งให้ในปี 2546 และพยายามจะนำไปใช้พัฒนาประเทศฟิลิปปินส์ จนกลายเป็นชื่อสากลที่รู้จักกันทั่วโลก ดังนั้น ชื่อทักษิโณมิกส์นี้ จึงไม่ได้มีการครอบงำแต่อย่างใด คล้ายกับการนำแนวคิดเศรษฐกิจแบบเคนเซี่ยน ของจอร์น เมย์นาร์ด เคนส์ หรือ เรแกนโนมิกส์ ของอดีตประธานาธิบดีเรแกน แล้วนำมาพัฒนา แนวคิดหลักๆคือ การลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และ ขยายโอกาส ประกอบกับการพัฒนาเศรษฐกิจแบบคู่ขนาน (Dual Track)ที่พัฒนาเศรษฐกิจขนาดใหญ่ด้านบนไปพร้อมกับพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ลดช่องว่างของรายได้ พัฒนาให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งจะแก้ไขไม่ให้ประชาชนรู้สึกว่าทำไมเศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวแต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกว่าดีขึ้นเลยแต่กลับแย่ลง โดย ทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่นี้ จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ในด้านต่างๆ และนำสภาวะแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเข้ามาร่วมพัฒนาแนวคิด เพื่อให้ประเทศไทยก้าวหน้าได้ทันโลก หลังจากล้าหลังมากว่า 4 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังจะเป็นการสร้างความหวังและความสุขให้กับประชาชนได้ทันทีตั้งแต่วันแรกหากพรรคเพื่อไทยได้เข้าบริหารประเทศโดยไม่ต้องรอ 4 ปีแล้วค่อยมาคิดทำ จนหลายคนสงสัยว่าหากพลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายกอีก ประชาชนจะต้องรออีก 3-4 ปีหรือไม่ ถึงจะมีแนวทางช่วยประชาชน โดยหลังจากมีประกาศให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมได้ จะมีการเสนอ แนวคิด ทักษิโณมิกส์ เวอร์ชั่นใหม่นี้เข้าสู่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และที่ประชุมพรรค เพื่อพิจารณาทำเป็นนโยบายของพรรคต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ความนิยมของพรรคเพื่อไทยพุ่งสูง และเป็นความหวังของประชาชนได้อย่างแน่นอน