นายกฯ สั่งการทุกหน่วยงานดูแลประชาชนที่ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวให้ดีที่สุด พร้อมเตรียมงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยาให้พร้อม -เร่งแก้ปัญหาและโอนเงินให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ให้เสร็จโดยเร็ว
วันนี้ (9 ธันวาคม 2568) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยได้กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า
ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 จนถึงขณะนี้ เกิดเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาหลายพื้นที่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และสั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงดูแลความปลอดภัยของประชาชน และปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มกำลัง โดยเมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีได้แถลงให้ประชาชนได้ทราบว่า ที่ประชุม สมช. มีมติยืนยันว่า รัฐบาลจะดําเนินการตามตามมติ สมช. โดยจะปฏิบัติการทางทหารในทุกกรณีตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นตามความจําเป็น พร้อมมอบหมาย
1) ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนที่ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวให้ดีที่สุด ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ ความปลอดภัย อาหารน้ำดื่ม การบริการทางการแพทย์ โดยทราบว่า นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย
2) ขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมการเรื่องงบประมาณ
ในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัยตามหลักเกณฑ์เดิม เพื่อให้มีความพร้อมและสามารถโอนเงินให้ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ไม่ล่าช้าเหมือนครั้งที่ผ่านมา
3) ให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้สื่อสารข้อมูลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง ชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่า เรื่องการจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ หลังจากที่ได้มีการปรับลดขั้นตอน ปรับลดเอกสาร และเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนทางออนไลน์ไปแล้ว การจ่ายเงินให้ถึงมือประชาชนก็ควรจะรวดเร็วขึ้น แต่ทราบว่าตอนนี้ ระบบยังมีปัญหาอยู่ ทำให้การจ่ายเงินยังล่าช้า ขอให้ทาง ปภ. และจังหวัด เร่งแก้ปัญหา และโอนเงินให้กับประชาชนให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้เปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลของผู้ที่สมควรได้รับสิทธิให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการบัตรสวัสดิการประชารัฐ กำลังพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านคุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียน ก่อนที่จะนำมาเสนอ ครม. ให้ความเห็นชอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเปิดลงทะเบียนใหม่ครั้งนี้ ขอให้คณะกรรมการบัตรสวัสดิการฯ ให้ความสำคัญกับการกำหนดหลักเกณฑ์ที่มุ่งเป้าการช่วยเหลือไปยังผู้มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง กำหนดเกณฑ์การคัดกรองที่ดูทั้งมิติรายได้และทรัพย์สินที่รัดกุมมากขึ้น แทนที่จะมุ่งปรับเกณฑ์รายได้ลงอย่างเดียว เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณที่มีอยู่จำกัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด
โดยในช่วงท้ายของการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หากรัฐมนตรีท่านใดว่างเว้นจากภารกิจปกติ อยากให้ช่วยกันสับเปลี่ยนหมุนเวียนลงไปให้ความช่วยเหลือ และให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตามศูนย์พักพิงต่าง ๆ ในแต่ละจังหวัด