สคบ. – สำนักงาน กขค. ผนึกกำลังจัดสัมมนา “ดิจิทัลมาร์เก็ต” เดินหน้าวางกรอบกำกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ยกระดับมาตรฐานตลาดดิจิทัลไทยให้โปร่งใส–แข่งขันเป็นธรรม
วันที่ 9 ธันวาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) บูรณาการความร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) จัดงานสัมมนาวิชาการ “ดิจิทัลมาร์เก็ต: แข่งขันได้ ซื้อขายสบายใจ” ประกาศวิสัยทัศน์นำพาผู้บริโภคไทยก้าวข้ามความท้าทายในยุคแพลตฟอร์มดิจิทัล มุ่งอุดช่องว่างทางกฎหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมสูงสุด ณ ห้องประชุมแมจิก 3 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์
คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในช่วงเปิดงานและร่วมเสวนา โดยระบุว่า ปัจจุบันมูลค่าการซื้อขายผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นกลไกหลักทางเศรษฐกิจ แต่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้สร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ที่กฎหมายเดิมอาจครอบคลุมไม่ทั่วถึง การสัมมนาครั้งนี้ถือเป็น "จุดเปลี่ยน" สำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ สคบ. และ สำนักงาน กขค. จะร่วมกันกำกับดูแลในพื้นที่ทับซ้อน เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการเอารัดเอาเปรียบ นายรณรงค์ฯ ยังได้เน้นย้ำถึงนโยบายการทำงานเชิงรุก ซึ่งจะเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง ให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจและสามารถ
"ซื้อขายสบายใจ" ได้อย่างแท้จริง
ภายในงานยังมีการระดมความเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมองทางวิชาการที่เข้มข้น ครอบคลุมทุกมิติของตลาดดิจิทัล ประกอบด้วย “เจาะลึกเทรนด์เทคโนโลยี : การบรรยายภาพรวมพัฒนาการของ Market & Digital Technology” โดย ดร.ประถมพงศ์ ศรีนวล (กสทช.) และ ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม (สวทช.) เพื่อปูพื้นฐานความเข้าใจต่อพลวัตเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รวมถึง การวิเคราะห์โครงสร้างตลาด E-Marketplace และมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค โดย หม่อมหลวงปรียทิพย์ เทวกุล (สำนักงาน กขค.) และ นายณัชภัทร ขาวแก้ว (สคบ.) ถอดบทเรียนสากล : การนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดีจากต่างประเทศ (Best Practices) โดย ดร.อัครพล ฮวบเจริญ (สำนักงาน กขค.) และ นางวิมลรัตน์ รุกขวรกุล เตริยาภิรมย์ (สคบ.) เพื่อนำมาปรับใช้พัฒนากฎหมายไทย
การจัดงานในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองหน่วยงาน ที่ต้องการผลักดันให้ตลาดดิจิทัลของประเทศไทยมีความโปร่งใส ส่งเสริมการแข่งขันที่สุจริต และยกระดับประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายให้ทันสมัย ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการค้าของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป