เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2568 นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การสู้รบตามชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทางจังหวัดก็ได้สั่งการให้ นายอำเภอ ในพื้นที่เสี่ยงต่อการสู้รบ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.กันทรลักษ์ อ.ขุนหาญ และภูสิงห์ เร่งอพยพพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงที่ทางราชการจัดเตรียมไว้รองรับ ในพื้นที่อำเภอต่างๆ ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 7 ธ.ค. 2568 ที่ผ่านมาแล้วนั้น ล่าสุดทางจังหวัดได้อนุมัติเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ภัยจากกองกำลังจากนอกประเทศ เพื่อดำเนินการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกมิติ ตามอำเภอต่างๆ ที่มีศูนย์อพยพ โดยได้ให้ทางอำเภอเสนอขอยืมเงินทดรองราชการเข้ามายังจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 15 อำเภอ โดยได้อนุมัติเงินลงไปที่อำเภอครบแล้วกว่า 79 ล้านบาท อำเภอที่มากที่สุด คือ อ.กันทรลักษ์ กับ อ.ขุขันธ์ อำเภอละประมาณ 9 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายในการดูแลผู้พักพิงในแต่ละศูนย์ของอำเภอ พร้อมให้ทุกศูนย์รายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการดูแลประชาชนและการใช้จ่ายเงินทุกวัน ในที่ประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ทุกวัน
นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำกับทางอำเภอว่า ต้องกระจายเงินดังกล่าว ไปยังศูนย์พักพิงต่างๆ เพื่อให้การบริหารจัดการศูนย์พักพิงเป็นไปด้วยความเรียบร้อยคล่องตัว ดูแลพี่น้องประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิง ให้เป็นไปด้วยคุณภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ และการบริหารงบประมาณเหล่านี้ จะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ หากพบการทุจริต ก็จะดำเนินคดีทางกฎหมาย ทั้งวินัย และอาญา อย่างเข็มงวดเด็ดขาดซึ่งตนได้มอบหมายให้ นายธาตรี สิริรุ่งวนิช รอง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้ไปบริหารแล้วก็คำนวณ ว่าศูนย์ฯใด ที่จะมีงบประมาณอาจจะไม่เพียงพอ ก็ให้ได้มีการยืมเงินมาที่จังหวัด แล้วก็จะเร่งเบิกจ่ายให้กับทางอำเภออย่างรวดเร็วที่สุดต่อไป.