กระทรวงเกษตรฯ สั่งเตรียมพร้อมรับอุทกภัยภาคใต้ตอนล่าง กำชับทุกหน่วยปรับปรุงบัญชีทรัพยากรให้เป็นปัจจุบัน ระดมเครื่องมือ ปัจจัยการผลิต พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรทันที
นายกฤษ อุตตมะเวทิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งที่ 6/2568 ณ ห้องประชุมสำนักตรวจราชการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (1403) และผ่านระบบ Zoom Meeting ว่า จากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 12–17 ธันวาคม 2568 ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักมากบางแห่งในพื้นที่จังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล เนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังค่อนข้างแรง ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น และติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมวางแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่อาจได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที
รองปลัดฯ กฤษ กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางเตรียมรับสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ และปัจจัยการผลิต ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านการเกษตร และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม เฝ้าระวัง และประชาสัมพันธ์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงประเมินความเสี่ยงและแจ้งเตือนเกษตรกรล่วงหน้า พร้อมกำชับให้หน่วยงานต่าง ๆ ปรับปรุงบัญชีทรัพยากร เครื่องมือ เครื่องจักร ยานพาหนะ อาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์ ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อให้สามารถสนับสนุนการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมพัฒนาที่ดิน เตรียมความพร้อมด้านการอพยพสัตว์ การดูแลสุขภาพสัตว์ การเฝ้าระวังบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และการฟื้นฟูปรับปรุงบำรุงดินในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบ
รองปลัดฯ กฤษ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้ติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการและโครงการช่วยเหลือฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ การฟื้นฟูดินและให้คำแนะนำเกษตรกร การสนับสนุนท่อนพันธุ์หม่อน 25,000 ท่อน และไข่ไหม 1,250 แผ่น การช่วยเหลือด้านพืชอาหารสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์ การช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชผักและพืชอายุสั้น การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงแหล่งน้ำธรรมชาติ 68.20 ล้านตัว การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวราคาถูกและจุลินทรีย์บำรุงดิน รวมถึงมาตรการพักชำระหนี้ผู้กู้ด้านการประมง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัย
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานสถานการณ์พื้นที่การเกษตรประสบอุทกภัยภาคใต้ ปี 2568 ช่วงการเกิดภัยตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2568) พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ด้านพืช มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 242,210 ราย พื้นที่รวม 207,031 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 67,396 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 11,996 ไร่ และไม้ผล ไม้ยืนต้น และพืชอื่น ๆ 127,639 ไร่ โดยสำรวจพบความเสียหายแล้ว 4,316 ราย พื้นที่เสียหาย 15,384 ไร่
ด้านประมง มีเกษตรกร 14,215 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบรวม 26,665 ไร่ แบ่งเป็นบ่อปลา 13,464 ไร่ บ่อกุ้ง 13,201 ไร่ และกระชัง 134,149 ตารางเมตร ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม
ด้านปศุสัตว์ มีเกษตรกร 213,567 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบรวม 13,975,659 ตัว แบ่งเป็นโค 437,706 ตัว กระบือ 8,145 ตัว สุกร 275,715 ตัว แพะและแกะ 211,061 ตัว และสัตว์ปีก 13,043,032 ตัว โดยสำรวจพบความเสียหายแล้ว 1,165 ราย มีสัตว์ตายหรือสูญหายรวม 302,129 ตัว
สำหรับการช่วยเหลือเฉพาะหน้า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการสนับสนุนข้าวกล่องและถุงยังชีพ การอพยพสัตว์และจัดตั้งสถานที่พักพิงสัตว์ การสนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือ และยานพาหนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง