นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในการสัมมนา เรื่อง “การพัฒนาศักยภาพศูนย์ข้าวชุมชนโดยระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่)” เมื่อเร็วๆนี้ว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของข้าวและชาวนามาโดยตลอด และพยายามที่จะพัฒนากิจการด้านข้าวและชาวนาของประเทศให้มีศักยภาพสูงสุด นอกจากนั้น ยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้พี่น้องชาวนามีการพัฒนาไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ ใช้นวัตกรรมที่เหมาะสม เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้สูงขึ้น โดยดำเนินการในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ หรือนาแปลงใหญ่ ซึ่งถือเป็นโครงการที่สำคัญที่จะช่วยให้ระบบการผลิตข้าวมีความเข้มแข็ง เพิ่มอำนาจในการต่อรองให้แก่ชาวนา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนางานด้านข้าวต่อไป เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ชาวนาจึงได้จัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทยปี2560 - 2564 เพื่อให้มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนและครอบคลุมงานด้านข้าวและชาวนาทั้งระบบ ประกอบด้วย การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชาวนา การบริหารจัดการพื้นที่ปลูกและปริมาณผลผลิตข้าวให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาด การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว การยกระดับคุณภาพผลผลิตและมาตรฐานสินค้าข้าว การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านโลจิสติกส์ การสร้างค่านิยมการบริโภคข้าว และการวิจัยพัฒนาและสร้างนวัตกรรมข้าว
ด้านนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่อง “ระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่)” ให้กับศูนย์ข้าวชุมชน ซึ่งเนื้อหาในการสัมมนานั้น ประกอบด้วย การให้นโยบายและแนวทางในการพัฒนาศูนย์ข้าวชุมชน หลักการดำเนินงานระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) การอภิปรายคณะเรื่อง “ศูนย์ข้าวก้าวหน้าด้วยนาแปลงใหญ่” รวมทั้งระดมความคิดเห็นเพื่อหาแนวทางพัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนด้วยระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ นอกจากนี้ ยังได้จัดนิทรรศการในรูปแบบ Poster Session ของศูนย์ข้าวชุมชนที่มีผลงานดีเด่นในการจัดทำนาแปลงใหญ่ด้วย
“ปัจจุบันมีชาวนาจากทั่วประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) จำนวน 175,647 ราย รวมพื้นที่นาทั้งสิ้น 2,433,172 ไร่ โดยในปีงบประมาณ 2562 มีแผนที่จะขยายพื้นที่โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) เพื่อให้เป็นผลดีต่อชาวนาเพิ่มขึ้น โดยให้ความสำคัญกับศูนย์ข้าวชุมชนเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นองค์กรชาวนาที่มีความเข้มแข็ง มั่นคง และเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาข้าวและชาวนาในแต่ละท้องถิ่น จึงมีความเหมาะสมจะทำให้โครงการนาแปลงใหญ่ประสบผลสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในขณะนี้มีศูนย์ข้าวชุมชนที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการข้าวทั้งสิ้น 1,786 ศูนย์ ในจำนวนนี้ได้เข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่แล้วจำนวน 368 ศูนย์” นายอนันต์ กล่าว