นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า โครงการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) หรือที่เรียกกันว่า โครงการเน็ตห่างไกล โซน ซี ในส่วนที่สำนักงาน กสทช.รับผิดชอบ จำนวน 15,723 หมู่บ้าน ทางกสทช.ดำเนินโครงการนี้ด้วยความโปร่งใส โดยใช้การประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Bidding ตาม พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560
ส่วนขอบเขตของงานตามโครงการนี้เป็นการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมายที่มีโครงข่ายพาดผ่านแล้ว ดังนั้นสำนักงาน กสทช.จึงกำหนดขอบเขตของงานให้เปิดกว้าง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้มีผู้เข้าร่วมการประกวดราคามากที่สุด โดยกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอเข้าร่วมประกวดราคา เป็นผู้รับใบอนุญาตโทรคมนาคมแบบที่ 1 หรือแบบที่ 3 จากสำนักงาน กสทช.
สำหรับโครงการจัดให้มีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (Zone C) ใช้กรอบวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 19,674,785,365 บาท หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อปีประมาณ 3,935,000,000 บาท ในการดำเนินการ สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการจัดจ้างด้วยประกวดราคาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Bidding แบ่งออกเป็น 8 สัญญา
และเมื่อโครงการฯ ดำเนินการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการจะได้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยจะมีจุดบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Wi-Fi หมู่บ้าน จำนวน 15,584 จุดบริการ มีอาคารศูนย์ USO NET ในโรงเรียน พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และจุดบริการ Wi-Fi พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ 228 โรงเรียน มีห้อง USO NET ในโรงเรียน พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และจุดบริการ Wi-Fi พร้อมเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ 1,623 โรงเรียน มีจุดบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Wi-Fi โรงเรียน พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 3,170 โรงเรียน รวมโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่จะได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 5,021 แห่ง และมีจุดบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Wi-Fi โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบล (รพ.สต.) จำนวน 91 แห่ง โดยทั้งหมดนี้สำนักงาน กสทช. จะสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานให้บริการ และบำรุงรักษาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี