ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชัย โภชนกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมกับนางศริษา มงคลไชยสิทธิ์ นายด่านศุลกากรนครศรีธรรมราช และนายบริรักษ์ ชูสิทธิ์ พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบโกดังเก็บของภายในตลาดกลางพืชผักผลไม้ หรือตลาดพืชผลหัวอิฐ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากได้รับร้องเรียนมาว่า มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มผิดกฎหมายมานานแล้ว
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า น้ำมันปาล์มจำนวนมากตั้งรวมอยู่กับผักผลไม้นานาชนิด อยู่ในกล่องกระดาษรวม 5 ชนิดยี่ห้อ เป็นยี่ห้อภาษาต่างประเทศบรรจุขวดๆละ 5 ลิตร และบรรจุถุงๆละ 1 กก. รวมน้ำหนัก 14,540 กก. มูลค่าประมาณกว่า 600,000 บาท ซึ่งเมื่อสอบถามไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจยึดน้ำมันปาล์มหนีภาษีทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า มีโกดังเก็บน้ำมันปาล์มหนีภาษีซุกซ่อนอยู่ในตลาดพืชผลหัวอิฐ ซึ่งได้ลักลอบนำเข้ามาขายนานแล้ว ตรวจสอบพบว่า เป็นน้ำมันสำหรับอุปโภคบริโภคนำเข้ามาโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงให้ทำการตรวจยึดและติดต่อเจ้าของ ซึ่งคนในตลาดรู้จักกันดีว่าเป็นใครเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย “กระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นการทำลายอาชีพของเกษตรกรชาวสวนปาล์มไทยโดยตรง หากปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าอยู่อย่างนี้ เป็นการทำลายเศรษฐกิจของไทยอย่างชัดเจน ซึ่งน้ำมันปาล์มที่ลักลอบนำเข้ามาจำนวนดังกล่าวนี้ ไม่แน่ใจว่ามีคุณภาพอย่างไร” นายวิชัย ระบุ
สำหรับตลาดกลางพืชผลแห่งนี้ ถือเป็นแหล่งค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และต่างเป็นที่ทราบว่าหากจะหาซื้อน้ำมันปาล์มในราคาถูกและปริมาณมากจะสามารถเข้ามาหาซื้อได้อย่างง่ายดาย และมีการตั้งวางจำหน่ายอย่างเปิดเผย ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีก็ว่าได้ ที่มีการเข้าจับกุมอย่างจริงจัง