นายบรรยง วิทยวีรศักดิ์ ผู้ประสานงานกลุ่มเรียกร้องความเป็นธรรม เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มของตัวแทนประกันชีวิต ได้ร่วมกับตัวแทนประกันชีวิตของทุกบริษัท นำรายชื่อตัวแทนประกันชีวิตกว่า 750 รายชื่อ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้กรมสรรพกร บังคับใช้กฎหมาย บังคับให้บริษัทประกันชีวิต เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในฐานะผู้รับบริการจากตัวแทนประกันชีวิต โดยแต่เดิมตัวแทนประกันชีวิตไม่ต้องเสียภาษีการค้าจากค่านายหน้า แต่เมื่อกรมสรรพากร นำภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้ กลับระบุให้ตัวแทนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งถ้าทำตามระบบตามหลักการที่ปฏิบัติทั่วไป คือผู้รับบริการจะต้องรับภาษีมูลค่าเพิ่มไป แต่ปรากฏว่ากรมสรรพากรกลับไม่ยอมรับข้อเสนอของบริษัทประกันชีวิต ที่ให้ตัวแทนประกันชีวิตเป็นผู้รับภาระภาษีมูลค่าเพิ่มทุกครั้ง ที่รับค่านายหน้าทำให้ค่านายหน้าที่รับต่ำกว่าความเป็นจริงและที่สำคัญทำให้รัฐเสียหายปีละหลายร้อยล้านบาท ซึ่งในส่วนของรัฐโครงสร้างที่บิดเบือนนี้ทำให้รัฐได้รับภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำกว่าความเป็นจริงคือแทนที่รัฐจะได้รับ 7% เเต่ได้เพียง 6.54 % แต่ตัวแทนประกันชีวิตที่จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มมีประมาณ 5400 คน เฉพาะส่วนนี้ทำให้รัฐมีรายได้ลดลง 62 ล้านบาทแต่เมื่อพิจารณาในส่วนภาษีบุคคลธรรมดา หากตัวแทนประกันชีวิตได้รับค่านายหน้าเพิ่มขึ้นอีก 7 % จากภาษีมูลค่าเพิ่มที่บริษัทต้องจ่าย ทำให้กรมสรรพากรสามารถเก็บภาษีรายได้ก้อนนี้เพิ่มได้อีก 236 ล้านบาท