ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
กสอ. เผยงบ 800 ลบ. ในปี 62 เล็งปั้น SMEs 3,200 กิจการ
30 ก.ย. 2561

        กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โชว์ผลสำเร็จการยกระดับ SMEs  ปี 61  ปั้น SMEs และวิสาหกิจชุมชน เชื่อมโยงเครือข่าย 30 เครือข่าย เกิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 8,000 ล้านบาท พร้อมแย้มงบปี 62 เตรียมทุ่มงบประมาณกว่า 800 ล้านบาท พลิกโฉม SMEs ผ่าน 5 แผนงานหลัก ภายใต้แนวคิดกุญแจไขความสำเร็จ 7 ขั้นตอน ตั้งเป้าหมายพัฒนา SMEs กว่า 3,200 กิจการ พัฒนาผู้ประกอบการ กว่า 15,000 ราย และพัฒนาวิสาหกิจชุมชนกว่า  2,000 ราย คาดเกิดมูลค่าเศรษฐกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

        นายภานุวัฒน์ ตริยางกรูศรี  รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า  ผลการจากดำเนินงานงบประมาณ 2561 ได้ยกระดับ SMEs ผ่านการเพิ่มจำนวนผลผลิตของการดำเนินงานพัฒนาสถานประกอบการรวมกว่า 2,700 กิจการ ฝึกอบรมพัฒนาทักษะผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมกว่า 19,000 คน พัฒนาความสามารถแก่ SMEs และวิสาหกิจชุมชนกว่า 1,600 ราย 63 กลุ่ม พัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 1,000 ผลิตภัณฑ์ พัฒนาความเข้มแข็งเชื่อมโยงเครือข่าย 30 เครือข่าย ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 8,000 ล้านบาท

         โดยได้ดำเนินงานภายใต้ 9 มาตรการ สามารถพัฒนาให้ SMEs กลายเป็น Smart SMEs ด้วยการสนับสนุน ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์และบริการในรูปแบบใหม่โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการออกแบบและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้มีอัตลักษณ์และมีรูปลักษณ์  ทันสมัยตรงกับความต้องการลูกค้า

         รวมถึงกระบวนการผลิตสินค้าและบริการ ผ่านศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center: ITC 4.0) การให้บริการปรึกษาแนะนำผ่านศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือ เอสเอ็มอีทั่วประเทศ การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการ รวมทั้งการพัฒนาความรู้และทักษะให้มีความทันสมัย และสร้างความเชื่อมโยงของ SMEs ไทยให้เชื่อมโยงผ่านระบบ Big Data นอกจากนี้ ยังมุ่งหวังยกระดับ SMEs และเศรษฐกิจฐานชุมชน ด้วยการสร้างงาน สร้างโอกาส สร้างรายได้ โดยการดึงธุรกิจ รายใหญ่ (Big Brother) มาช่วยสนับสนุนการพัฒนาทั้ง SMEs และวิสาหกิจชุมชนในรูปแบบประชารัฐ

 

          ด้านงบประมาณปี 2562 กสอ. ได้รับจัดสรรงบประมาณรวมกว่า 800 ล้านบาท มีเป้าหมายในการช่วยเหลือและพัฒนา SMEs 3,200 กิจการ พัฒนาผู้ประกอบการ/บุคลากรอุตสาหกรรม 17,000 คน และพัฒนาวิสาหกิจชุมชน 2,540 ราย โดยคาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ผ่าน 5 แผนงานหลัก คือ 1) แผนงานบูรณาการพัฒนาผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจชุมชน และพัฒนา SME สู่สากล 2) แผนงานบูรณาการพัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ 3) แผนงานบูรณาการเพื่อพัฒนาพื้นที่ระดับภาค (ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ)  4) แผนงานบูรณาการด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ และ  5) แผนงานบูรณาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล

“กลยุทธ์หลักในการดำเนินงานปี 2562 จะดำเนินการภายใต้แนวคิดกุญแจไขความสำเร็จโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม 7 ขั้นตอน หรือ 7steps to key success of DIP project ประกอบด้วย

1) โครงการจะต้องมาจาก Need ที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย

2) นำกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการที่ได้จากการความต้องการที่แท้จริง

3) ความคุ้มค่า เน้นการลดต้นทุนและความสูญเสียทั้ง Supply Chain การเพิ่ม Productivity ให้มากขึ้น

4) การตลาด หลังจากมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เสร็จแล้วให้นำไปขายบน online platform เช่น T-Good Tech / J-Good Tech/E-Market Place/E- Catalog/E-Commerce/Lazada/Alibaba และ K-Plus

5) ให้คำแนะนำปรึกษาด้านสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ กรณีที่มีทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ โดยผ่านกองทุนหลัก ๆ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 20,000 ล้านบาท และเงินทุนหมุนเวียนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

 6) คือการประชาสัมพันธ์ Success Case ของแต่ละโครงการเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แก่ผู้ประกอบการ  และผู้สนใจทั่วไปให้รับรู้ถึงวิธีการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ และ

 7) สร้าง Platform ในรูปแบบ E-Learning มาขยายผล Success Case เพื่อเผยแพร่ความรู้แก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจทั่วไป ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวจะสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs แบบครบวงจร และนำไปสู่การจะสร้าง Productivity หรือการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรม SMEs ไทย สามารถ Transform ตามโมเดลไทยแลนด์ 4.0 ได้” นายภานุวัฒน์ กล่าว 

               รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางในการส่งเสริมและพัฒนา SMEs ปีงบประมาณ 2562 กสอ. มุ่งเน้นในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม (SME Startup and Innovation)  เน้นการให้ความรู้ การบ่มเพาะและให้คำปรึกษาแนะนำการประกอบธุรกิจให้สามารถวางแผนและสร้างโมเดลธุรกิจ เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม การออกแบบผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีมูลค่าสูง และการสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงธุรกิจ กับนักลงทุนหรือแหล่งเงินทุนที่น่าสนใจ  การยกระดับผลิตภัณฑ์หรืองานวิจัยต้นแบบ ไปสู่ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด ทั้งด้าน Product Innovation หรือ Service Innovation อย่างจริงจัง มีการเชื่อมโยงของศูนย์ ITC ประจำภาคและศูนย์ Mini ITC ประจำจังหวัด โดยมีเป้าหมายส่งเสริม Industrial Tech Startup จำนวนทั้งสิ้น 1,300 รายและเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนทั้งสิ้น 50 ผลิตภัณฑ์ เกิดผลลัพธ์มูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 117.5 ล้านบาท 

              พร้อมเตรียมพัฒนาศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (Industry Transformation Center : ITC 4.0) ให้มีความพร้อมทุกด้านและช่วยส่งเสริม SMEs ให้มีศักยภาพในอุตสาหกรรมใหม่ โดยคาดว่าจะทยอย เปิดให้บริการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมครบทั้ง 13 ศูนย์ได้ภายในเดือนตุลาคม 2561 นี้ ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมี วิสาหกิจชุมชน และ SMEs มาใช้บริการมากกว่า 2,000 รายต่อปี นอกจากนี้จะเพิ่มผลิตภาพการผลิต (Productivity) ภาคอุตสาหกรรมสู่เวทีโลก ด้วยการยกระดับผลิตภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และระบบบริหารจัดการเข้ามาช่วยในการพัฒนาปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เพื่อสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการเพิ่มผลิตภาพ โดยมุ่งพัฒนาผู้ประกอบการกว่า 1,500 โรงงาน พัฒนาบุคลากร 10,000 ราย และพัฒนาเครือข่ายการผลิต 36 เครือข่าย เพื่อปรับลำดับ ผลิตภาพภาคอุตสาหกรรมไทยขึ้นจากอันดับ 51 มาอยู่ต่ำกว่าอันดับที่ 45 ของการจัดอันดับ IMD จากทั้งหมด 61 ประเทศทั่วโลก

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...