นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และนายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกันลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและข้อมูลระหว่าง สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และ ธนาคารแห่งประเทศไทย” ในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2561 เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจการค้า และเพิ่มความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาบุคลากรอย่างเป็นทางการ
ผอ. สนค. กล่าวว่า สนค. และธปท. ได้มีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ในยุคแห่งความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทั้งสองหน่วยงานได้เล็งเห็นประโยชน์ของการบูรณาการข้อมูลที่มีความหลากหลายและซับซ้อนให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ดีขึ้น การลงนาม MOU ในวันนี้จะนำไปสู่การเสริมจุดแข็งของทั้งสองหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลเงินเฟ้อ การส่งออก ภาคบริการ หรือการพัฒนาบุคลากรซึ่งต่างฝ่ายต่างมีความรู้ความชำนาญไม่เหมือนกัน ให้ช่วยกันทำงานเป็นทีมมากขึ้นเพื่อให้งานศึกษาวิจัยเศรษฐกิจการค้าตอบโจทย์ความต้องการของประเทศชาติและภาคเอกชน อีกทั้งเป็นวิธีการทำงานที่สอดคล้องกับแนวโน้มของโลกที่มีเรื่อง Big Data, Sharing Economy และ 4.0 เข้ามาด้วย
รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า โลกปัจจุบันกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ในอดีตการศึกษาข้อมูลในระดับมหภาคอาจจะเพียงพอต่อการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจและการเงิน แต่ปัจจุบันการศึกษาข้อมูลจำเป็นต้องลงระดับจุลภาคมากขึ้น เพื่อให้มาตรการของหน่วยงานตั้งอยู่บนข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ มีหลักการคิดที่ถูกต้อง (evidence-based policy) อันจะทำให้นโยบายและมาตรการตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างถูกต้อง การลงนามระหว่าง สนค. และ ธปท. ในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ในการที่จะเชื่อมโยงให้หน่วยงานด้านวิชาการเศรษฐกิจทั้งสองซึ่งต่างมีข้อมูลเชิงลึกที่ใช้ด้วยกันได้ กระชับการทำงานร่วมกันมากขึ้นอย่างเป็นทางการ แม้ว่าจะได้ทำงานร่วมกันมานานแล้วก็ตาม
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและข้อมูลดังกล่าว (MOU) ฉบับนี้ ครอบคลุมการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกที่แต่ละหน่วยงานดำเนินการและสามารถนำใช้ประโยชน์ได้ร่วมกัน และความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาบุคลากร (technical cooperation and human capital development) เช่น การจัดทำรายงานการวิเคราะห์ การแลกเปลี่ยนบุคลากรไปทำงานวิจัยหรือร่วมจัดการอบรม และการจัดทำกิจกรรมทางวิชาการในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สามารถร่วมกันพัฒนาและใช้ประโยชน์จากข้อมูลและบุคลากรของทั้งสององค์กรได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานเองแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อภาครัฐและเอกชนที่จะได้รับ
ข้อมูลและการศึกษาวิจัยด้านเศรษฐกิจการค้าที่รอบด้าน ลงลึก และได้มาตรฐานทางวิชาการ มาเป็นปัจจัยช่วยกำหนดนโยบายและมาตรการของประเทศ
“ดิฉันขอขอบพระคุณท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดร. วิรไท สันติประภพ และท่านรองผู้ว่าการฯ ดร. ไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เป็นอย่างยิ่ง ที่เห็นความสำคัญของการร่วมมือกันใกล้ชิดมากขึ้นระหว่าง ธปท. และ สนค. ดิฉันมั่นใจว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การทำงานที่เป็นเอกภาพและสนับสนุนกันและกันมากขึ้น เราจะได้ทำงานไม่ซ้ำซ้อน ช่วยเสริมจุดแข็งของสองหน่วยงาน และร่วมกันเดินหน้าพัฒนาบุคลากรของทั้งสองหน่วยงานต่อไป เข้ากับ concept ของโลกสมัยใหม่ ที่กำลังก้าวไปสู่ Sharing Economy ค่ะ” นางสาวพิมพ์ชนกกล่าว