ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
สก-สข.แห่เชียร์ “มาร์ค” นั่งหน.ต่อ ด้าน “อภิสิทธิ”ลั่นยังมีไฟทุมเททำงาน
10 ต.ค. 2561

กลุ่มอดีตสมาชิกสภากทม.(สก.) และสมาชิกสภาเขต(สข.) กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ ประมาณ 50คน เดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจและสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้สมัครรับการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคหมายเลข1 ให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง พร้อมตะโกนเชียร์ ”อภิสิทธิ์ สู้ๆ ชนะเป็นหัวหน้าพรรค และนายกรัฐมนตรี” โดยมีป้ายข้อความ”เราเลือกอภิสิทธิ์”ให้ผู้เดินทางมาร่วมลงชื่อด้วย 

นายอภิสิทธิ์  กล่าวขอบคุณกับสมาชิกสก. และสข. ที่มาสนับสนุนว่า ตนได้เป็นส.ส.ตั้งแต่ปี 35   จึงมีความผูกพันกับพรรค และสมาชิกทุกคนมาก  และตนก็ยังมีไฟเต็มที่ในการที่จะทุ่มเททำงานต่อไป  การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคถือเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย ซึ่งการหาเสียงจะต้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีความแตกแยก ไม่มีการพลาดพิงถึงใคร  เราต้องมาช่วยกันสร้างพรรคใหม่ให้มีความเข้มแข็งร่วมกัน และขอให้ทุกคนช่วยกันหาสมาชิกใหม่มาเพิ่มด้วย และที่สำคัญต้องมาช่วยลงคะแนนให้ตนด้วย ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเสียงดีแต่ไม่มีคะแนน 

ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวถึงการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคว่า ขณะนี้เป็นไปด้วยดี ประชาชนให้ความสนใจมีความตื่นตัว จึงรู้สึกดีใจที่เห็นสมาชิกทั้งเก่าและใหม่ให้ความสนใจ และมองว่านี่เป็นครั้งแรกที่จะมีส่วนร่วมทางการเมือง แม้ว่าการสมัครสมาชิกใหม่ขณะนี้อาจจะยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเอกสาร เพราะต้องทำให้รัดกุม จึงต้องขออภัยหากยังมีความไม่สะดวกอยู่บ้าง จึงต้องมีเอกสารภาพถ่ายและหลักฐานการโอนเงิน 

ส่วนการหาเสียงของตนนั้นก็จะมีการลงพื้นที่เช่นเดียวกับผู้สมัครท่านอื่น โดยสัปดาห์หน้าจะเริ่มลงพื้นที่มากขึ้น และเห็นว่าการเปิดเวทีให้ผู้สมัครทั้งสามคนได้ดีเบทวิสัยทัศน์เป็นเรื่องที่ดี แต่ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของกกต.พรรคจะเป็นผู้พิจารณากำหนดกติกา ทั้งนี้ในส่วนของตนได้รับการตอบรับที่ดีมาโดยตลอด จึงขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ยีงคงประสบปัญหาถูกดูดสมาชิกอีกระลอกหนึ่ง โดยล่าสุดมีสก.ของพรรคสามคน ประกอบด้วย นางกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ. สก.พระนคร นางกนกนุช นากสุวรรภา สก.ดอนเมือง และนางกรณิษ งามสุคนธ์รัตนา สก.คลองเตย ได้พร้อมใจกันยื่นใบลาออกเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมาเพื่อไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ของนายอุตตมะ สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม โดยมีนายณัฐพล ทีปสุวรรณ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ทาบทามโดยหวังที่จะใช้ฐานเสียงของสก.เหล่านี้ดึงคะแนนบัญชีรายชื่อให้กับพรรคพลังประชารัฐ อีกทั้งยังมีความพยายามทาบทามทั้งอดีตสส. สก. และสข.ของพรรคอยู่ตลอดเวลา

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่กทม. กล่าวว่าทั้งสามคนที่ลาออกไปถือว่าเป็นคนที่มีศักยภาพในพื้นที่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพลังดูดมาแรง และยังมีความพยายามที่จะดูดเพิ่มเติม ซึ่งคนที่ตัดสินใจที่ออกจากพรรคไปก็มีสิทธิ์ที่จะกำหนดชีวิตทางการเมืองของตนเอง เพราะอาจคิดว่าในพื้นที่ของตน มีสส.ของพรรคอยู่แล้ว ไม่มีโอกาสได้ลงสมัครส.ส. จึงตัดสินใจไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าไม่กระทบกับฐานเสียงของพรรค
________________

มาร์ค แนะกกต. แจงร่นเวลารับรองพรรคใหม่เร็วขึ้นเอื้อพปชร. หรือไม่ วอนรบ.อย่าใช้อำนาจเอื้อประโยชน์บางพรรค บี้กกต.ออกโรงเตือน  พร้อมเก็บหลักฐานทุกเม็ดกรณีพรรคนอมินี 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)เร่งรัดกรอบเวลารับรองพรรคการเมืองใหม่จากเดิมประมาณ 90วันมาเป็น 45วันจนมีเสียงครหาว่าทำเพื่อพรรคพลังประชารัฐ ที่เพิ่งยื่นจดจัดตั้งพรรคการเมืองว่า เป็นเรื่องที่กกต.ต้องอธิบายถึงกลไกการทำงานว่าการจะเร่งรัดเพื่อให้มีประสิทธิภาพรวดเร็วขึ้นและจะมีหลักเกณฑ์การตรวจสอบที่เสมอภาคกัน และการลดเวลาลงจะไม่กระทบกับการตรวจสอบเหมือนกับการตรวจสอบพรรคการเมืองอื่นอย่างไร ทั้งหมดอยู่ที่ข้อเท็จจริง ที่กกต.ต้องอธิบายให้ได้ว่าเปลี่ยนแปลงกรอบเวลาเพราะอะไร 

ส่วนกรณีพรรคการเมืองสาขาที่มีการออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่นอมินีนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าต้องดูพฤติกรรมหลายอย่างและหลายช่วงประกอบกันจะทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น ในเรื่องการตัดสินใจส่งผู้สมัครในพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งพฤติกรรมในการรณรงค์หาเสียงด้วย โดยต้องดูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหน้าที่กกต.จะต้องพิจารณาภาพรวมทั้งหมดว่ามีส่วนใดเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ และกกต.ควรเตือนผู้มีอำนาจรัฐระมัดระวังอย่าเข้ามาเกี่ยวข้องในการสร้างความไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้ง และรัฐบาลจะต้องไม่ใช้อำนาจรัฐไปเอื้อประโยชน์ในพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...