นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้พิจารณามาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาท/ลิตร เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ปัจจุบันมีอยู่ 24,592 ล้านบาท ดูแลราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับเดิม และราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ระดับ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (กก.) ได้ถึงเดือน มี.ค.62 หากสถานการณ์ราคาน้ำมันขยับขึ้น หรืออย่างช้าเดือน มิ.ย.62 หากสถานการณ์ราคาน้ำมันยังคงเป็นเช่นปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อดูแลเสถียรภาพราคาน้ำมันและ LPG ให้ผ่านพ้นช่วงฤดูหนาว
สำหรับมาตรการดังกล่าว แบ่งเป็น2 มาตราการคือ มาตรการที่ 1 หากราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวในกรอบ 82.50-87.50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จะใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ เข้าไปชดเชยน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 1.50 บาท/ลิตร จากปัจจุบันที่ชดเชยไม่เกิน 1 บาท/ลิตร รวมถึงยังคงดูแลราคา LPG ในระดับเดิมต่อไป ซึ่งเงินกองทุนน้ำมันฯ จะรองรับได้ไปอีก 6 เดือนจนถึงเดือน มี.ค.62 แต่หากราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับปัจจุบัน และกองทุนน้ำมันฯ ยังคงชดเชยไม่เกิน 1 บาท/ลิตร ก็จะสามารถดูแลราคาน้ำมันดีเซล และ LPG ได้จนถึงเดือน มิ.ย.62 ซึ่งเป็นช่วงที่เข้าสู่หน้าร้อนที่ความต้องการใช้น้ำมันลดลง และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองของโลกก็น่าจะผ่อนคลายลงเช่นกัน
มาตรการที่2 กรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินมีปัญหาการเมืองระหว่างประเทศส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน จนทำให้ราคาน้ำมันปรับขึ้นไปในระดับ 90 หรือเกิน 90 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็จะใช้วิธีการผสมผสาน ระหว่างการเพิ่มเงินชดเชย, การเพิ่มราคาขายปลีก และหรือการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งการดำเนินการตามมาตรการนี้จะต้องดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในช่วงนั้นเป็นหลัก รวมถึงค่าครองชีพและสถานการณ์ของกระทรวงการคลังด้วยว่าจะเลือกใช้มาตรการใด แต่เบื้องต้นจะยังคงใช้กลไกจากกองทุนน้ำมันฯเป็นหลักในการดูแลก่อน
ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีฐานะเงินสุทธิ 24,592 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน 28,919 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 4,327 ล้านบาท