ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
กกต.วาง 31 ก.ค.ประชามติ จ่อชงร่างหลักเกณฑ์ฯ
08 ม.ค. 2559

นายธนิศร์ ศรีประเทศ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบร่างประกาศหลักเกณฑ์วิธีการออกเสียงประชามติและจะมีการเสนอไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในสัปดาห์หน้า โดยร่างประกาศฯดังกล่าวมีเนื้อหาสำคัญ 2 ประการ คือ 1. หลักการเผยแพร่ จัดพิมพ์ การแสดงความคิดเห็นของฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบ การจัดสรรเวลาออกอากาศ ซึ่งการจัดพิมพ์บัตรออกเสียง ร่างรัฐธรรมนูญ ทาง กกต.ให้นโยบายกับสำนักงานฯให้ใช้วิธีการประกวดราคาตามปกติ การจัดส่งก็จะบริษัทไปรษณีย์จะเป็นผู้ดำเนินการจัดส่งไปยังครัวเรือนของผู้มีสิทธิออกเสียงที่เบื้องต้นกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบุว่ามีทั้งหมด 19 ล้านครัวเรือน ส่วนการแสดงความคิดเห็นเบื้องต้นจะมีการออกระเบียบฯ โดยกำหนดให้มีการลงทะเบียนในแต่ละจังหวัดของผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกลุ่มละ 15 คนแล้วให้คัดเลือกตัวแทนเข้ามาบันทึกเทปที่ส่วนกลาง ก่อนที่กกต.จะนำเผยแพร่ทางโทรทัศน์ วิทยุและสื่อต่างๆเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ

2. รูปแบบหลักเกณฑ์และวิธีการออกเสียงประชามติ ที่จะคล้ายกับการเลือกตั้ง ส.ว.ซึ่งใช้จังหวัดเป็นเขตออกเสียงที่เป็นกระบวนการตามปกติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม กกต.มีข้อกังวล เนื่องจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว ไม่ได้กำหนดบทลงโทษกับผู้ที่อาจกระทำผิดในการออกเสียงประชามติ ทั้งฉีกบัตร ขัดขวางการออกเสียงฯ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนก่อนวันออกเสียง และการซื้อเสียง กกต.จึงจะได้ทำเป็นข้อสังเกตไปยังสนช. ว่าอาจดำเนินการเช่นเดียวกับเมื่อครั้งการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 50 ที่รัฐบาลมีการออก พ.ร.บ.รักษาความเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติได้ รวมไปถึงข้อสังเกตอื่นที่อาจะเป็นปัญหาต่อการทำประชามติ เช่น มาตรา 37 วรรค 7 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่กำหนดเกณฑ์ออกเสียงประชามติว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านประชามติต้องได้เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด

       
       นายธนิศร์ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนการปฏิบัติงานของ กกต.เกี่ยวกับการเตรียมการประชามติ ก็ได้มีการกำหนด เส้นทางสู่ประชามติ (R2R ROAD TO REFERENDUM) ระยะเวลาตั้งแต่ มี.ค.-ก.ค. โดยเริ่มจากโรดแมปของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ) ที่จะเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแรกในวันที่ 29 ม.ค. จากนั้นจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อนำไปปรับปรุงร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะเสร็จสมบูรณ์วันที่ 29 มี.ค. ก่อนที่จะส่งให้แก่คณะรัฐมนตรีในวันที่ 30 มี.ค.เพื่อพิจารณา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดให้ ครม.ต้องส่งมาให้ กกต.ดำเนินการออกเสียงประชามติโดยเร็ว แต่ไม่ได้ระบุระยะเวลาว่าภายในเมื่อใด ซึ่งคาดว่าครม.จะมีการส่งมาให้ กกต.ภายใน 1-2 สัปดาห์แรกของเดือน เม.ย.โดยประมาณ หากเป็นไปตามแผนงานดังกล่าว กกต.คาดว่าภายในวันที่ 8 เม.ย.ก็จะเร่มพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ และเอกสารสรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญตามที่ กรธ.สรุปส่งมาให้ ซึ่งการจัดพิมพ์ฯจะทำควบคู่กับการจัดส่งร่างรัฐธรรมนูญไปยังครัวเรือนของผู้มีสิทธิออกเสียง โดยน่าจะเริ่มจัดส่งได้ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.เป็นต้นไป และรัฐธรรมนูญชั่วคราวได้กำหนดว่าต้องจัดส่งให้ครัวเรือนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 จึงจะสามารถประกาศวันออกเสียงประชามติได้ ซึ่งจำนวนร้อยละ 80 ของ 19 ล้านครัวเรือน คือประมาณ 14 ล้านครัวเรือน โดย กกต.เชื่อว่าจะน่าส่งได้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 มิ.ย. รวมระยะเวลาการพิมพ์และจัดส่ง 45 วัน และคาดว่าวันที่ 22 มิ.ย. กกต.จะสามารถประกาศวันออกเสียงประชามติได้ ซึ่งมีการกำหนดวันออกเสียงประชามติไว้เบื้องต้นเป็นวันที่ 31 ก.ค.
       
       แต่ทั้งนี้วันออกเสียงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยการส่งเอกสารร่างรัฐธรรมนูญของ ครม.มายัง กกต. และการจัดส่งเอกสารร่างรัฐธรรมนูญไปครัวเรือนผู้มีสิทธิออกเสียงที่จะดำเนินการให้ได้ร้อยละ 80 เมื่อใด ส่วนการรณรงค์ของฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย การเผยแพร่ขั้นตอนการออกเสียงก็จะดำเนินการในช่วงเดือน พ.ค.เป็นต้นไป จนถึงวันก่อน ออกเสียงประชามติ สำหรับงบประมาณในการจัดออกเสียงประชามติ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานกับสำนักงานประมาณและหน่วยงานราชการที่จะต้องเข้ามาสนับสนุนการจัดการออกเสียง รวมทั้งต้องรอดูว่าสนช.จะการเสนอประเด็นให้รัฐบาลทำประชามติเพิ่มเติมหรือไม่ จึงยังไม่สามารถกำหนดได้
       
 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...