กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ “DITP” กระทรวงพาณิชย์ เผยตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงในรัสเซียเติบโตสูง คาดเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% และจะมีมูลค่าสูงถึง 360ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2566 ชี้ “ทรายแมว” มาแรง ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ตามด้วยผลิตภัณฑ์สุขอนามัยและอาหารเสริม แนะผู้ส่งออกไทยศึกษาตลาด เหตุมีโอกาสสูง และควรชูเรื่องคุณภาพมาตรฐานสู้
กรมฯ ได้รับรายงานแนวโน้มผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงในตลาดรัสเซียจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก โดยสำนักงานฯ ได้แจ้งว่าตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เศรษฐกิจในรัสเซียเริ่มฟื้นตัว ทำให้ชาวรัสเซียหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น โดยคาดว่าตลาดจะมีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 5% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2561-66) และจะมีมูลค่าตลาดสูงถึง 360 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 11,880 ล้านบาท ในปี 2566 (อัตราแลกเปลี่ยน 33บาทต่อเหรียญสหรัฐ)
สำหรับสินค้าที่มีโอกาสทางการตลาดสูง คือ ทรายแมว ที่ใช้รองรับการขับถ่ายและกลบกลิ่นปฏิกูลของแมว โดยปัจจุบันเป็นสินค้าที่มีสัดส่วนตลาดสูงสุด คิดเป็น 3ใน 4 ของผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงทั้งหมด รองลงมา เป็นผลิตภัณฑ์สุขอนามัย อาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง และอื่นๆ ที่กำลังเติบโตเพิ่มขึ้น เพราะผู้เลี้ยงสัตว์ได้หันมาใส่ใจด้านสุขอนามัยของสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น
“ปัจจุบันจำนวนประชากรแมวได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ใช้เลี้ยงแมวเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัท Mars เป็นผู้นำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับแมวภายใต้แบรนด์ Catsan แต่ก็เริ่มได้รับแรงกดดันจากผู้ผลิตในท้องถิ่นอย่างบริษัท Liding ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ในราคาต่ำกว่า แต่มีคุณภาพที่ยอมรับได้ และยังมีการแข่งขันจากสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้าของผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยที่จะขยายตลาดเข้าสู่รัสเซีย”
ทั้งนี้จากการสำรวจตลาดผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงระหว่างสินค้าที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ พบว่า มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน แต่ผู้ผลิตในประเทศรัสเซียมีข้อได้เปรียบในเรื่องราคาที่ต่ำกว่า แต่สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งหากผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทย รวมทั้งผู้ผลิตรายย่อย SME ในภูมิภาคมีความต้องการที่จะเจาะตลาดสินค้ากลุ่มนี้ ในรัสเซีย ควรเน้นในเรื่องคุณภาพและมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้สินค้าแข่งขันได้ดีขึ้น