รู้หรือไม่ ในชีวิตประจำวันของเรามีการนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิงของรถยนต์และในครัวเรือน ใช้เป็นวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ผลิตพลาสติกและวัสดุสังเคราะห์ทั้งหลายที่อยู่รอบตัวเรา เช่น ภาชนะใส่อาหาร เสื้อผ้า อุปกรณ์การเกษตร เป็นต้น ที่สำคัญยังเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าให้คนไทยทั้งประเทศถึงร้อยละ 60 ของกำลังผลิตทั้งหมด ดังนั้น ก๊าซธรรมชาติจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราเลย
ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยได้ถูกขุดนำมาใช้งานอย่างต่อเนื่องเกือบ 40 ปีแล้ว ทำให้ปริมาณสำรองลดลง และมีแนวโน้มจะหมดลงในอนาคต จึงต้องมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG (Liquefied Natural Gas) จากต่างประเทศ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งาน และลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงาน โดยปัจจุบัน ไทยมีการนำเข้า LNG อยู่ประมาณ 5 ล้านตันต่อปี แต่คาดว่าในปี 2579 ปริมาณนำเข้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 34 ล้านตันต่อปี ตามความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว ด้วยโครงการ FSRU (Floating Storage and Regasification Unit) เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าไทยมีความมั่นคงจากการใช้เชื้อเพลิงที่หลากหลาย เศรษฐกิจจึงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีต่อไปในอนาคต โดยหัวใจสำคัญที่จะทำให้โครงการสำเร็จได้ คือ การมีส่วนร่วมของประชาชน เมื่อประชาชนมีความรู้ความเข้าใจว่า การสร้างความมั่นคงทางพลังงานเป็นเรื่องใกล้ตัว อนาคตพลังงานไทยจึงจะเติบโตได้อย่างมั่นคง