พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคายางพารา ว่า งบประมาณที่จะนำไปซื้อยางจากเกษตรกรโดยตรงนั้นต้องไปดูว่าจะใช้งบจากกองทุนการยางตามสัดส่วนที่มีการกำหนด แต่หากเงินในส่วนที่ไม่เพียงพอก็อาจจะใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง เพราะปริมาณที่จะซื้อจากเกษตรกร 1 แสนตันนั้น เป็นเพียงข้อสรุปจากการหารือ อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการรับซื้อยางจะซื้อจากเกษตรกรทั้งหมด ซึ่งจะเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวกับเกษตรกรในภาคใต้ก่อน โดยไม่ต้องตรวจสอบเงื่อนไข หากใครเดือดร้อนก็ต้องซื้อ ส่วนจำนวนเกษตรกรที่รัฐบาลจะเข้าไปรับซื้อโดยตรงมีกี่รายนั้น ตนยังไม่ทราบ แต่เอาจำนวนปริมาณที่จะซื้อ 1 แสนตันเป็นตัวตั้ง จะซื้อยางทุกชนิดจากเกษตรกร และการซื้อจะไม่ใช่ยางเก่า เพราะอย่างที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าซื้อมาแล้วเอามาเก็บไม่ได้ต้องรีบใช้ให้หมด เพราะขณะนี้เป็นการซื้อยางสด จึงเชื่อว่าราคายางพาราจะขยับ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนของกระทรวงมหาดไทยจะที่จะรับซื้อยางนั้น จะซื้อวัสดุสำเร็จรูปจากยาง จะไม่มีการนำไปใช้ทำถนน เพราะกระทรวงมหาดไทยต้องการซื้อแผ่นยางปูพื้นสำหรับศูนย์เด็กเล็ก ลานกีฬา และพื้นที่อื่นๆในท้องถิ่น ซึ่งมีปริมาณความต้องการใช้จำนวนมาก คาดวงเงินในส่วนนี้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่ขอไปดูในรายละเอียดก่อน เนื่องจากเป็นงบประมาณของกระทรวงเอง อย่างไรก็ตาม แต่ละภาคส่วนจะต้องทำตามขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง ทำตามกฎหมาย