นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.ชุดปัจจุบัน กำลังอยู่ระหว่างการทบทวน แผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงานฉบับปัจจุบัน และกำหนดให้ “การส่งเสริม และสนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ” เป็นวิสัยทัศน์ใหม่ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการระยะต่อไป พร้อมทั้งวางกรอบแนวทางการกำกับดูแลภาคพลังงาน เพื่อสร้างความโปร่งใส เปิดเผย และตรวจสอบได้สร้างความชัดเจนกฎระเบียบ และความเป็นธรรมให้กับองค์กรธุรกิจภาคเอกชนและจะนำเอาแนวทางการปฏิรูปภาคพลังงาน ภายใต้แผนปฏิรูปประเทศ ด้านพลังงาน เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนงานกำกับดูแลภาคพลังงานของประเทศด้วย ขณะนี้ได้อยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ ระบบการออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (OSS) การพัฒนา Big Data สำหรับการกำกับกิจการพลังงาน การสนับสนุนการพัฒนาโครงการโซลาร์ภาคประชาชน โครงการโซลาร์เสรี ตามนโยบายรัฐบาล และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ พร้อมนำเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ก้าวสู่ Thailand 4.0 เพื่อเป็นองค์กรที่ทำงานอย่างโปร่งใส เปิดเผย และตรวจสอบการทำงานได้อีกด้วย
สำหรัยการคาดการณ์แนวโน้มภาคพลังงานไทย จะมีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีพลังงานอย่างรวดเร็ว การให้ความสำคัญกับการห่วงใยสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง แนวโน้มของการมีส่วนร่วมและสิทธิของภาคประชาชนและชุมชนในภาคพลังงานจะเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ผู้ประกอบการไฟฟ้ารับอนุญาตภาครัฐ ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะแข่งขันกับธุรกิจภาคเอกชนได้ยากขึ้นกว่าเดิม แต่จะมีบทบาท ภารกิจที่สำคัญในการดูแลเสถียรภาพ และความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับประเทศ
ด้านกิจการก๊าซธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันเป็นเชื้อเพลิงหลักที่สำคัญในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยยังคงมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบการรายเดียวในกิจการก๊าซธรรมชาติของประเทศ ก็จะเริ่มเร่งรัดเพื่อให้มีการเปิดเสรีมากขึ้น โดยจะมีการกำหนดแนวทางและกระบวนการขออนุญาตการประกอบธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตลอดจนการพัฒนาและการออกใบอนุญาต ศูนย์ควบคุมการสั่งจ่ายก๊าซธรรมชาติ (Transmission System Operation: TSO) เพื่อดำเนินการควบคุมการสั่งจ่ายก๊าซธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้พลังงาน
ทั้งนี้ ในการกำกับดูแล กิจการ ไฟฟ้า และกิจการก๊าซธรรมชาติ ของ กกพ. ในระยะต่อไป จะมุ่งเน้นให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่นท่ามกลางเทคโนโลยีใหม่ๆทางด้านพลังงานทดแทน (RE) ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)และพยายามในการสร้างความเข้าใจให้กับชุมชน ภาคประชาชน เพื่อลดกระแสการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและโครงข่ายพลังงาน