กฟผ. โชว์นวัตกรรมพลังงานรองรับการผลิตไฟฟ้าในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศและรับมือกระแสพลังงานทดแทน ขานรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ในงาน Future Energy Asia 2018
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไฟฟ้าในอนาคตจะมีรูปแบบที่แตกต่างออกไป เนื่องจากการใช้พลังงานในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น (Electrification) การกระจายตัวออกของแหล่งพลังงาน (Decentralization) ทำให้มีแหล่งพลังงานทางเลือกกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ และการใช้เทคโนโลยีดิจิตอล (Digitalization) ซึ่งเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมไฟฟ้า
ทั้งนี้กฟผ. ได้เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับนวัตกรรมพลังงานที่ทันทันสมัยและการเพิ่มขึ้นของพลังงานทดแทน ซึ่งในปีนี้ กฟผ. ยังคงเดินหน้าลงทุนสร้างโครงข่ายระบบส่งไฟฟ้าให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น พร้อมส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. อาทิ โครงการนำร่องพัฒนาสมาร์ทกริดแม่ฮ่องสอน การพัฒนาระบบแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานไฟฟ้า การติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี รวมถึงแนวทางการรับมือพลังงานทดแทนที่จะเข้ามาในระบบไฟฟ้าของประเทศไทยในอนาคต เช่น การจัดตั้งศูนย์สั่งการการดำเนินการตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้า (Demand Response Control Center : DRCC) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการความต้องการใช้ไฟฟ้า
“กฟผ. มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมพลังงานด้วยเทคโนโลยที่ทันสมัย เพื่อเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า เชื่อถือได้ มีราคาที่เหมาะสม เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งอุตสาหกรรมไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่บทบาทสำคุญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล”