น.ส.สุทธิรัตน์รัตนโชติอธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่ากรมบัญชีกลางได้จัดทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยมยั่งยืนในกลุ่มผู้พิการผู้สูงอายุผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี2560โดยจะเริ่มแจกบัตรฯผ่านทีมไทยนิยมยั่งยืนทั่วประเทศจำนวน3.04ล้านราย
โดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะแจกในครั้งนี้มี2แบบคือ1)บัตรแบบContactlessเป็นบัตรที่สามารถใช้ได้กับเครื่องรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ชนิดโมบายที่จะแจกให้กับผู้มีสิทธิที่แจ้งที่อยู่ปัจจุบันใน7จังหวัดคือกรุงเทพมหานครนนทบุรีปทุมธานีพระนครศรีอยุธยาสมุทรปราการสมุทรสาครและนครปฐมและ2)บัตรแบบSmartCardซึ่งจะแจกให้กับผู้มีสิทธิในจังหวัดอื่นๆนอกเหนือจาก7จังหวัดข้างต้น
ขณะนี้ได้จัดส่งบัตรไปที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัดและกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้วเพื่อส่งต่อให้ถึงมือผู้มีสิทธิได้รับบัตรตามที่มีการประกาศรายชื่อโดยกำหนดระยะเวลาในการรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยตั้งแต่วันที่21–28ธ.ค.2561รับบัตรจากทีมไทยนิยมฯระดับตำบล/ชุมชนซึ่งจะแจ้งจุดรับบัตรให้ทราบและเริ่มใช้บัตรได้ในวันที่1ม.ค.2562
นอกจากนี้ระหว่างวันที่29ธ.ค.2561–31ม.ค.2562รับบัตรจากทีมไทยนิยมฯระดับตำบล/ชุมชนซึ่งจะแจ้งจุดรับบัตรให้ทราบและบัตรจะเริ่มใช้ได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว2วันทำการ
ขณะเดียวกันตั้งแต่วันที่1–28ก.พ.2562ต้องไปรับบัตรณที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตในกรุงเทพมหานครตามที่อยู่ปัจจุบันที่ลงทะเบียนไว้และบัตรจะเริ่มใช้ได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว2วันทำการ
ทั้งนี้หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวผู้มีสิทธิจะต้องไปรับบัตรที่สำนักงานคลังจังหวัดหรือศาลาว่าการกรุงเทพมหานครในจังหวัดที่ผู้มีสิทธิได้ลงทะเบียนไว้และบัตรจะเริ่มใช้ได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว2วันทำการ
ในการขอรับบัตรให้ผู้มีสิทธินำบัตรประจำตัวประชาชนมารับบัตรด้วยตนเองหากมอบให้ผู้อื่นมารับบัตรแทนจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้มีสิทธิและผู้มอบอำนาจพร้อมด้วยหนังสือมอบอำนาจและสำเนาบัตรฯของผู้มอบอำนาจที่ได้ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องแล้วทั้งนี้ผู้ที่มารับบัตรทุกกรณีจะต้องลงชื่อเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการรับบัตรด้วย
น.ส.สุทธิรัตน์กล่าวว่าเมื่อผู้มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมแล้วจะสามารถใช้สิทธิได้2ประเภทได้แก่1.สิทธิในกระเป๋าวงเงินประกอบด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางวงเงินค่าโดยสารรถขสมก./รถไฟฟ้าจะได้รับ500บาท/คน/เดือนใช้ได้สำหรับผู้มีสิทธิที่ได้รับบัตรแบบContactlessเท่านั้นเมื่อผู้มีสิทธิต้องการใช้จ่ายเป็นค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้นำบัตรไปที่ห้องจำหน่ายตั๋วตามสถานีเพื่อแตะและแลกรับเป็นเหรียญแทนเงิน(Token)
ในส่วนของผู้มีสิทธิที่ต้องการใช้จ่ายเป็นค่าโดยสารรถขสมก.พนักงานเก็บเงินจะมีเครื่องรับชำระค่าโดยสาร(Handheld)ไว้ที่ตัวเองโดยจะนำบัตรไปแตะที่เครื่องและเลือกอัตราค่าโดยสารตามระยะทางซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีบัตร
นอกจากนี้ยังมีวงเงินค่าโดยสารรถบขส.จะได้รับ500บาท/คน/เดือนโดยการใช้สิทธิจากจุดจำหน่ายบัตรโดยสารรถบขส.วงเงินค่าโดยสารรถไฟจะได้รับ500บาท/คน/เดือนโดยการใช้สิทธิจากจุดจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟทุกสถานี(รฟท.)
สำหรับค่าใช้จ่ายในครัวเรือนมีวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านธงฟ้าประชารัฐสำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน3หมื่นบาทต่อปีจะได้รับวงเงิน300บาท/คน/เดือนส่วนผู้มีรายได้เกินกว่า3หมื่นบาทต่อปีจะได้รับวงเงิน200บาทต่อคนต่อเดือนวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนดจะได้รับ45บาท/คน/3เดือน
ทั้งนี้หากมีวงเงินคงเหลือภายในบัตรของแต่ละเดือนจะไม่มีการสะสมเพื่อใช้ในเดือนถัดไปและไม่สามารถถอนวงเงินสวัสดิการออกมาเป็นเงินสดได้