ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูปิยคามเขตคณาภิรักษ์ ดร. (จอ.ชพ.) หรือ พระอาจารย์จินดา อายุ 45 ปี เจ้าคณะอำเภอบ้านแพง จ.นครพนม เจ้าอาวาสวัดปทุมมาราม บ้านนาเข หมู่ 1 ต.นาเข อ.บ้านแพง ได้นำไม้ตะเคียนทองยักษ์ อายุราว 2,000 ปี ขนาดความยาวประมาณ 20 เมตร เส้นรอบวงโคนต้นประมาณ 5 เมตร ซึ่งเป็นไม้ตามความเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาอารักษ์ปกปักรักษา รวมถึงมีนางตะเคียนสิงสถิต มาเก็บรักษาไว้ภายในวัด พร้อมออกแบบจากแนวความคิด ให้ช่างแกะสลักไม้มาแกะสลักเป็นภาพนูนสูงตลอดลำต้นไม้ตะเคียนยักษ์ ประกอบด้วย รูปพระพุทธเจ้าปางปรินิพพาน 2 ด้านรวมถึงภาพพุทธประวัติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขณะออกผนวช แสดงพระธรรมเทศนาโปรดมนุษย์ ผสมผสานกับภาพสัตว์ในวรรณคดี และหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ไปจนถึงการเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์สอดแทรกด้วย
พระอาจารย์จินดา กล่าวว่า ทุกวันนี้จะมีประชาชน นักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้อย่างไม่ขาดสายด้วยความเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของต้นตะเคียน ควบคู่กับการชื่นชมลวดลายแกะสลัก แฝงด้วย
ปริศนาธรรมคติสอนใจ ที่สำคัญยังเป็นการสร้างจิตสำนึกให้คนเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา ไม่ลุ่มหลงวนเวียนกับอบายมุข โดยใช้เวลาในการแกะสลักตะเคียนทองยักษ์เก่าแก่ต้นดังกล่าวนาน
เกือบ 2 ปี
สำหรับความเป็นมาของต้นตะเคียนยักษ์ เดิม พระอาจารย์จินดา ซึ่งเป็นพระที่มีความรู้ความสามารถ ชาวบ้านศรัทธาเคารพนับถือ อุปสมบทศึกษาเล่าเรียนมานานกว่า 26 พรรษา จนได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอบ้านแพงต่อจากเจ้าอาวาสรูปเดิม จนกระทั่งมีความตั้งใจว่าจะสร้างพระอุโบสถ แต่ต้องการทำด้วยไม้เพื่อให้เกิดความสวยงาม หาดูได้ยาก ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม กราบไหว้ทำบุญ ซึ่งก่อนหน้านี้พระอาจารย์จินดาได้เกิดนิมิต มีผู้หญิงคนหนึ่งมาบอกว่า ต้องการที่จะมาอยู่อาศัยในวัด ช่วยพัฒนาวัดทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ต่อมาไม่นานได้เกิด ความบังเอิญ ได้มีชาวบ้านมาบอกว่า มีคนพบไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ ที่ห้วยบางทราย จ.มุกดาหาร เมื่อปี 2554 จึงเกิดความแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตามนิมิต และมีความคิดว่าจะไปดูและอยากได้ไม้ตะเคียนต้นดังกล่าวมาไว้ที่วัด เพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในนิมิต แต่หลังจากการไปดูแล้วพบว่าไม้มีขนาดใหญ่มาก ความยาวประมาณ 20 เมตร ขนาดความกว้างรอบลำต้นประมาณ 5 เมตร เชื่อว่ามีอายุไม่ต่ำ กว่า 2,000 ปี จึงได้พยายามขอรับสนับสนุน จากผู้มีจิตศรัทธาเคลื่อนย้ายไม้ตะเคียนยักษ์ต้นนี้มาไว้ที่วัด ซึ่งกว่าจะเคลื่อนย้ายสำเร็จต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายนานพอสมควร
โดยเป้าหมายที่ต้องการแกะสลักภาพพุทธประวัติลงบนไม้ตะเคียนต้นนี้เพราะต้องการสร้างจุดสนใจให้แก่ผู้ที่มาพบเห็นได้รำลึกในหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเข้าใจ ถึงสัจธรรมของชีวิต ที่จะนำไปปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน ให้มีความสงบสุข และช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังต้องการให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาที่สำคัญของ จ.นครพนม อีก
แห่งหนึ่ง