นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมประชันนโยบาย เวทีพรรคการเมืองพบนักศึกษา-ประชาชน ในหัวข้อ “นโยบายพรรคการเมืองกับการแก้ปัญหาวิกฤตใต้”- กลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อประชาธิปไตยและหอการค้า จ.นครศรีธรรมราช ร่วมกับเครือข่าย We Watch ณ โรงแรมทวินโลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ตนและพรรคประชาธิปัตย์มีจิตวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตย เพราะในพรรคประชาธิปัตย์เป็นประชาธิปไตยด้วย แม้ตนจะไม่ใช่ผู้ก่อตั้งพรรค ตั้งแต่เกิดมาก็มีพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว แต่เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้วันนี้ อาสาตัวเป็นหัวหน้าพรรค แล้วมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ สมาชิกพรรคของพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศเป็นผู้เลือกเข้ามา นี่คือระบบที่จะมายืนยันถึงความเป็นจิตวิญญาณของความเป็นประชาธิปไตย และความเหมาะสมที่พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นผู้ที่จะรักษาประชาธิปไตยให้เกิดความยั่งยืน
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ยังเสนออีกด้วยว่า การที่จะทำให้ประชาธิปไตยในประเทศมีความยั่งยืนก็คือ 1. เงื่อนไขทางเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์มองเห็นว่า ในสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำ มีการผูกขาด จะโดยภาครัฐหรือโดยเอกชนก็ตาม และมีความเหลื่อมล้ำทั้งในด้านเศรษฐกิจและในด้านกฎหมาย ปัจจัยนี้อันตรายอย่างมากต่อการรักษาประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น นโยบายของประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ว่าจะผ่านการปฏิรูประบบภาษี ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมไม่ให้มีการใช้อำนาจผูกขาด เอารัดเอาเปรียบในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการดูแลให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเสมอภาคอย่างแท้จริง เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีของสังคมประชาธิปไตย
ประการที่ 2 รัฐธรรมนูญยังไม่เป็นประชาธิปไตย กติกาอีกหลายอย่างยังไม่เป็นประชาธิปไตย ประชาธิปัตย์จะผลักดันให้เกิดการแก้ไข แต่ในการที่จะทำให้ประชาธิปไตยยั่งยืน ประชาธิปัตย์จะแสวงหาฉันทามติเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะวันนี้ต้องยอมรับว่า ความหวาดระแวง ความไม่วางใจในตัวนักการเมือง แม้กระทั่งคนที่มาจากการเลือกตั้งยังมีอยู่ ถ้าเราเพียงแต่พูด หยิบเงื่อนไขเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นปมของการเผชิญหน้าและความขัดแย้ง ก็ไม่แน่ใจว่าเราจะได้ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น แต่ถ้าเราสร้างความเห็นร่วมกันว่า บทบัญญัติทั้งหลายที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จะเป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพ จะเป็นเรื่องที่มากับอำนาจของวุฒิสภาที่ไม่สอดคล้องกัน จะเป็นกลไกการตรวจสอบ ซึ่งจะต้องมีความรับผิดชอบในตัวของตัวเองด้วย ให้ประชาชนไว้ใจ เรียกร้อง เรามีโอกาสที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยความเห็นชอบของวุฒิสภา ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นตามกติกาใหม่ที่เกิดขึ้น
“ถ้าเราเพียงแต่บอกว่า วันนี้เป็นการชิงอำนาจกันระหว่างกองทัพกับนักการเมือง แล้วบอกว่าจะรื้อ จะแก้รัฐธรรมนูญ โดยไม่มีหลักประกันว่า แก้ไขไปแล้วเป็นการเอื้อนักการเมือง ลดการตรวจสอบ ลดการคอร์รัปชันหรือไม่ ผมว่าเราก็ไม่ได้วางรากฐานเพื่อระบอบประชาธิปไตย ความท้าทายในวันนี้คือ เราต้องช่วยกันทำให้ประชาธิปไตยยั่งยืน และประชาธิปัตย์ มีคำตอบ “ประชาชนต้องเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องสุจริต”